วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2553

"น้ำท่วม ปักธงชัย"

ไม่ใช่เรื่องฮิต เลยมาพูดถึง
แต่มนต์เป็นหนึ่งในผู้ประสพภัยน้ำท่วมในครั้งนี้
อยากจะเล่าความสำบาก ที่ได้พบเจอมา ทุกอย่างคือเรื่องจริง ไม่ได้แต่งเติมอะไร
เช้ามืดวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม มนต์ตั้งใจจะกลับบ้านต่างจังหวัด
เพราะคุณแม่ไม่สบาย เลยจะกลับไปเยี่ยม และจะพาไปหาหมอ
ก็บอกแม่ว่า พรุ่งนี้จะกลับบ้าน
ก็ไม่มีอะไร แม่ก็บอกว่าฝนตกตลอดวันมา 2 วันติดต่อกันแล้ว
กลัวน้ำออกจากตลิ่งจังเลย
ประมาณ 5 โมงเช้า แม่โทรมาบอกว่า อย่ากลับทางเดิมที่เคยกลับนะ น้ำท่วมแล้ว
กำลังมา ถ้ามาทางเดิม มาไม่ได้แน่ ๆ
ให้ไปลงที่ถนนด้านทางเข้าเขื่อนมูลบน
รถไปส่งถึงบ้านไม่ได้ เพราะกระแสน้ำเชี่ยวมาก ถนนหน้าปากซอยเข้าบ้าน
ไม่มีรถยนต์คันไหน เข้าออกได้ ระดับน้ำที่หน้าถนนถึงเอว และแรงมาก
มนต์เข้าไปเองกับน้องสาวไปไม่ได้
พ่อให้พวกน้อง ๆ อาสาสมัครหมู่บ้าน ช่วยกันพยุงเข้ามาในบ้าน
ทั้งกระเป๋าเสื้อผ้า 2 ใบ นมของน้องแป๊ะซะ และอื่น ๆ ที่ซื้อมา
เข้ามากันอย่างทุลักทุเล จับมือกันมา เพราะกลัวน้ำพัดพาไป ระยะทางประมาณ 500 เหมือนไกลมาก
พอถึงบ้านแม่ โชคดีมากที่บ้านแม่ได้ทำการดีดตัวบ้านให้สูง และถมที่ให้สูงไปแล้วเมื่อปีที่แล้ว
น้ำจึงไม่ได้เข้าไปในตัวบ้าน แต่รอบ ๆ บ้าน และห้องครัว เข้าถึงนิดหน่อย
ตัวบ้านมนต์เอง น้ำไม่ได้เข้าตัวบ้านเช่นกัน แต่สนามหญ้าหน้าบ้าน ไม่เหลือ
เย็นวันนี้ น้ำปะปาไม่ไหล แต่ไฟฟ้ายังมีอยู่

เช้าวันที่สอง กระแสน้ำสูงกว่าเดิมนิดหน่อย ไม่ลดลง
ชาวบ้านในซอย เริ่มจูงกันออกมา เพื่อหาซื้ออาหารแห้ง เพราะไม่มีอะไรทำกินกันแล้ว
บ้านชั้นเดียวไม่มีที่หุงหาอาหาร ไฟฟ้าดับ น้ำปะปาไม่ไหล
ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทาง อบต และทางราชการแต่อย่างใด
ที่ทำได้ คือใครพอมีอาหารตุนไว้ ก็ช่วยเหลือกันไป แม่มีปลากระป๋องอยู่ไม่ถึง 4 กระป๋อง แบ่งไปบ้านละกระป๋อง
ใครมีข้าวสาร มีแก๊ส หุงข้าวแบ่งปันกันไป วันนี้สัญญาโทรศัพท์ของทรูมูฟ ใช้การไม่ได้ ไม่มีสัญญาณเลย


วันที่สาม ระดับน้ำลดลง กระแสน้ำไม่เชี่ยวแรงเหมือนแรก ๆ คนเริ่มกล้าที่จะเดินออกหาอาหารกันได้
แต่ร้านขายของชำในระแวกนั้น ก็คือ ขายหมดแล้วหมดเลย ไม่มีมาเพิ่มเติม เพราะ ไปหาซื้อมาไม่ได้
ที่ตัวอำเภอปักธงชัยเอง ก็ท่วม ไม่มีใครขายของได้
วันนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก อบต.สะแกราช ได้ถุงยังชีพ มาครอบครัวละ 1 ถุง
ประกอบไปด้วย น้ำมันพืชโอลีนขวดครึ่งลิตร 1 ขวด มาม่าหมูสับ 4 ห่อ ปลากระป๋องซีเลค 4 กระป๋อง ข้าวสาร 2 กิโลกรัม ยาแก้ปวดไข้ 10 เม็ด ด้วยความสัตย์จริง ถ้าไม่มีเตาแก๊ส จะเอาอะไรหุงข้าว กินได้แต่มาม่าดิบและปลากระป๋องเท่านั้น
ซึ่งจะต้องเดินลุยน้ำจากบ้านไปปากซอย ที่ที่น้ำไม่ท่วมถึง เพื่อรับของชวยเหลือ
ประมาณว่า ถ้าใครไปได้ ก็ได้กิน ถ้าไครออกไปรับไม่ได้ ก็อด
ช้าวบ้านออกมาหาจับปลา ตามความสามรถของตัวเอง เพื่อมาเป็นอาหารประทังชีวิต ผักไม่ต้องถามหา
เพราะพื้นที่ปลูกกลายเป็นทะเลไปหมดแล้ว

วันที่ 4 น้ำลดลงมาก สามารถเดินได้ไม่เป็นอันตราย ไฟฟ้าใช้ได้แล้ว แต่ะกระแสไฟอ่อนมาก
น้ำปะปา ไม่ไหลเช่นเคย ความข่วยเหลือยังไม่มีอะไรมาอีกเลยนอกจากถุงยังชีพถุงนั้น
โชคดีที่บ้านแม่ ซื้ออาหารตุนไว้บ้าง โชคดีที่พ่อจับปลาเก่ง โชคดีที่มีแก๊สอยู่ที่บ้าน ไม่โดยพัดไปตามน้ำ
แต่เห็นความเดือนร้อนของเพื่อนบ้านบางคน สภาพย่ำแย่มาก ที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้มั่นคงอยู่แล้ว โดนน้ำไปครั้งนี้
แทบไม่เหลืออะไรเลย

วันที่ 5 น้ำลดลงแล้ว ผิวถนนเดินได้ปกติ รถเข้าออกได้ปกติ
สภาพหลังน้ำท่วม ที่ต้องเยียวยากันอีกเยอะ แต่จนวันนี้ มนต์จะต้องเดินทางกล้บมาทำงานที่กรุงเทพฯ
ความช่วยเหลื่อจากหน่วยงานรัฐ หรือ ที่อื่นใดที่เห็นว่า รับบริจาค ยังไม่ไปถึงคนประสพภัยจริง ๆ เลย
ถ้ามาหลังจากนี้ ความเดือนร้อนผ่านมาแล้ว แต่สถาพจิตใจ ยังคงห่อเหียวกันเต็มที่

แม่ไปหาหมอไม่ได้ โรงพยาบาลน้ำท่วม ถนนใช้ได้เส้นเดียว รถติดมาก
ไร่นา ข้าว สวน เสียหายหมด 100%


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น