วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556

เป็นอะไรไปนะ .. กังวลจัง

วันนี้แม่โทรมาหา …
มีอาการแปลก ๆ อีกแล้ว มีไข้ต่ำ ๆ พอรำคาญ ๆ คือไม่ได้เป็นไข้ ปวดหัว มีน้ำมูก คัดจมูก เหมือนคนเป็นหวัดทั่วไป
อยู่ ๆ ก็มีไข้ พอหนาว ๆ เป็นเวลา ช่วงเช้าสัก 8-9 โมงเช้า แล้วก็ช่วงเย็น สัก 1-2 ทุ่ม
ถ้าไม่กินยา ก็จะมีไข้ประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็จะหายไปเอง
แต่ถ้ากินยาพารา ก็จะสัก 10-20 นาทีก็จะหาย แล้วก็ร้อนเหงื่อออกเยอะมาก จนต้องเปิดพัดลม
เป็นอย่างนี้ประมาณ สองอาทิตย์มาแล้ว
ตั้งแต่ไปหาหมอ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ คุณหมอคเณศร์บอกว่า เจอถ่ายทางทวารหนัก
ซึ่งมันไม่ควรจะมี เพราะผ่าตัดมาตั้งแต่มกราคม ปี 55 นี่ก็มีนา ปี 56 มันผ่านมาตั้งปีแล้ว จะไปมีถ่ายได้ยังไง
แต่คุณหมอบอกว่า ไม่เป็นอะไร ไม่มีปัญหา แต่ถ้ากังวลก็จะให้ไปสวนล้าง เราก็ถามว่าต้องเจอคุณหมอบุญเลี้ยงด้วยไหม กลัวมันติดเชื้อข้างใจ
คุณหมอบอกว่า ไม่ต้อง ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวไปสวนล้างก็หมดปัญหา
แล้วคุณหมอก็ทำเรื่องให้ไปสวนล้างที่ห้อง ICU
แต่พอไปถึง พยาบาล บุรุษพยาบาล พูดไม่รู้เรื่องเลยว่ามาทำอะไร ก็บอกไปแล้วว่า คุณหมอส่งตัวมาสวนล้างทวาร แต่มีถุงโครอสโตมี่ อยู่หน้าท้อง
ก็น่าจะเข้าใจว่าไม่ได้ถ่ายก้น ถ่ายหน้าท้อง มันก็จะมาสวนหน้าท้อง จะบ้าหรือ พูดไม่รู้เรื่องเลย ได้ยินพวกเค้าคุยกันว่า ต้องสวนด้วยเหลือ สวนทำไม อ้าว..ก็หมอสั่งมา (คิดในใจนะ)
พออธิบายไป ก็บอกว่า ก็จะใช้ยาสวนทวารเหมือนตามร้านขายยาทั่วไป (แต่อันใหญ่มาก) สวนเข้าไป เอาไปทำเองที่บ้านก็ได้


เราเบื่อมากกับพวกนี้ เลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวเอาไปทำเอง เบิกยาให้หน่อยละกัน เค้าก็พูดดีขึ้น แล้วบอกจะเบิกยาให้
ก็สวนออกมาบ้าง ไม่ได้เป็นถ่ายก้อน ๆ แต่เป็นมูก ๆ เหมือนเลือดเก่า ๆ
แล้วก็ไม่มีออกมาอีก ตั้งแต่นั้นมาก็มีไข้ต่ำ ๆ ตลอด หรือว่าข้างในมันอีกเสบ มันต้องมีสาเหตุสิ
เรากังวล ก็ไปหาคุณหมอบุญเลี้ยง หมอศัลกรรมเกี่ยวกับลำไส้ แล้วเล่าอาการให้ฟัง ว่ามาตรวจกับคุณหมอคเณศร์ แล้วเจอถ่าย เป็นอันตรายไหม คุณหมอให้ไปสวนถ่าย แต่ทางห้อง ICU ไม่ทำให้ ให้ไปทำเอง เราก็คาดหวังว่าจะได้คำตอบที่น่าพอใจ แต่คุณหมอบอกว่า ไม่เป็นไร มันจะไปมีได้ยังไง ก็เย็บปิดไว้แล้ว เราก็บอกว่ากลัวมันจะอักเสบ เรายังมีความหวังว่า จะได้เอาเข้าไปที่เดิม แต่คุณหมอก็พยายามพูดโอนเอน ไปทางว่า คนที่เป็นมะเร็งลำใส้ ที่ไม่สามารถเอากลับเข้าไปได้ ก็ต้องเย็บปิดทาวรด้านล่าง แล้วอยู่แบบนี้ไปได้อีกเป็นสิบ ๆ ปี ไม่พูดให้กำลังใจเลยว่า เราจะเอาเข้าที่เดิมได้ เศร้าใจมาก
แล้วที่มีไข้ มันผิดปกติไหม ก็ถามไป เพราะก่อนที่จะรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง เราก็มีอาการแบบนี้ทุกเย็น เหมือนมันมีการอักเสบข้างใน ที่เรามองไม่เห็น ร่างกายก็จะแสดงความอ่อนแอออกมา เราว่ามันผิดปกติ คุณหมอบอกว่า ก็ไม่แปลก มีไข้ไม่มีน้ำมูกก็ไม่เห็นผิดปกติอะไร มีไข้ต่ำ ๆ แบบไม่ได้เป็นหวัดคัดจมูก เป็นเวลา เป็น ๆ หาย ๆ ก็ไม่เป็นไร ไม่ดูลำใส้เรา ไม่ดูอะไรให้เราเลย นั่งกอดอก แล้วเล่าความให้เราฟัง เรากังวลจนถึงทุกวันนี้

เล่าให้แม่ฟัง คิดว่าแม่คงจะเป็นกังวล เพราะเมื่อวาน แม่โทรมาตั้งแต่ตอนตีห้า
บอกว่าฝันเห็นเรา ปกติแม่ไม่เคยฝัน แม่เป็นห่วง
อีกแล้ว... ทำให้แม่เป็นห่วงอีกแล้ว แม่โทรมาบอกว่า ไม่ให้กินไก่อีกนะ ให้เลิกไปเลย

1 ความคิดเห็น:

  1. อาทิตย์ที่ 3 มีนาคม ไปหาหมอ ด้วยความตั้งใจจะไปหาคุณหมอคเณศร์ ด้วยความไม่สบายใจ ระแวง และกังวลมาหลายวันที่ผ่านมี จากที่มีไข้มาตลอดทุกวัน แม่โทรมาหาทุกเช้า ทุกวัน ถามอาการ เก้าโมงครึ่งเดินทางออกจากบ้าน เพราะคุณหมอจะมาประมาณ 9-10 โมงอยู่ถึงเที่ยง อยู่ไกล้ ๆ แป๊บเดียวถึง แต่ก็ผิดคาด รถติดนิดหน่อย เพราะเลือกตั้งผู้ว่า แต่ก็ไม่เท่ากับการโดนกีดกันจากเวชทะเบียน เค้าไม่ยอมให้พบคุณหมอคเณศร์เลย ต้องไปพบหมออายุรกรรมทั่วไปก่อน เราก็แจ้งไปแล้วเราเป็นมะเร็ง มีไข้เรื่อรัง คนที่จะวินิจฉัยก็ควรจะเป็นหมอมะเร็ง ซึ่งก็ตรวจสอบแล้ววันนี้คุณหมอคเณศร์เข้า อยู่ถึงแค่เที่ยง เค้าก็ไม่ยอม จนต้องไปนั่งรอพบหมออายุรกรรมอีก 1 ชั่วโมงครึ่ง ได้พบคุณหมอก็ซักใหญ่ เป็นหมอผู้หญิง น่ารักมาก ตัวเล็ก ๆ เหมือนตุ๊กตา จบใหม่ๆ เลยแน่ ๆ ดูเอาใจใส่คนไข้มากกว่าที่เห็นหมออายุรกรรมอายุเยอะ ๆ ทำ เพราะที่ผ่านมา ถ้าไปตรงอายุรกรรม ประกันสังคม นั่งไม่เกิน5 นาที ก็รักษาจบแล้ว บางครั้งหมอไม่เงยหน้ามองกันเลย นั่งจดๆๆๆๆๆๆ อะไรก็ไม่รู้ลง จะหันหน้ามาพูดด้วยก็ตอนตรวจคอ ตา จมูก เท่านั้น แต่คนนี้เหมือนเค้าต้องการศึกษาเครสใหม่ ๆ ก็โอเคนะคะ แต่เวลาเรามีจำกัด ต้องไปเจอหมอมะเร็งให้เร็วที่สุด เพราะท่านอยู่ถึงแค่เที่ยง
    สุดท้ายก็ไม่ทันคุณหมอคเณศร์ เพราะ 11 โมงครึ่งแล้ว คุณหมอไม่ลงมาประกันสังคมแล้ว ต้องไปหาเองที่ชั้น 4 ซึ่งเราต้องจ่ายตังค์เอง คนไม่สบายใจจะทำอะไรก็ได้อยู่แล้ว จ่ายเองก็จ่ายเอง ก็ขึ้นไปชั้น 4 เจอคุณหมอหน้าลิฟท์พอดี ยกมือไว้ทักทาย บอกว่ามาพบคุณหมอ คุณหมอให้ไปรอด้านใน เราก็ไปที่เคาเตอร์พยาบาล ติดต่อวัดความดัน ชั่งน้ำหนัก รอคุณหมอประมาณเกือบ 20 นาที ก็กลับมา ได้พบ ก็เลยได้สอบถามว่า อาการที่มีไข้เรื้อรัง ไข้ไม่มีเหตุผล คุณหมอถามว่ามีอาการอะไร อีกบ้าง แล้วก็กระพริบตาหลาย ๆ ครั้ง แล้วก็เล่าและอธิบายให้ได้ใจความมาว่า ณ ตอนนี้ก็ยังวินิจฉัยโรคไม่ได้ว่า มันกลับมาอีกหรือเปล่า มี 2 ประเด็นที่เป็นไปได้คือ
    1. เป็นอาการของวัยทอง เพราะเราได้ตัดมดลูกไป อาการของแต่ละคนแสดงออกมาไม่เหมือนกัน บางคนร้อนวูบบาบ หนาวเน็บ มีไข้ และอาจไม่แสดงออกทันที
    2. มะเร็งกลับมาหาอีกแล้ว จากการตรวจเลือดครั้งที่แล้วเมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา ผลของค่ามะเร็งในเลือดมันสูงขึ้น จากค่าปกติ จะต้องไม่เกิน 35 แต่ค่าในครั้งนี้ ตัวเลขเป็น 37 ซึ่ง จะเข้าไปตรวจหาตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ เพราะเป็นค่าที่เกินมาไม่มาก ถึงจะไปสแกนคอมพิวเตอร์ก็ยังหาไม่เจอ เพราะฉนั้น ตอนนี้ยังฟันธงไม่ได้ว่า มันกลับมาแล้วจริงหรือเปล่า
    แนวทางการรักษา
    คุณหมอนัดตรวจเลือดอีกครั้ง อีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า เพื่อดูค่า ถ้าตัวเลขขึ้นมาสูงอีก 1 เท่าตัว คือฟันธงได้ว่า มันกลับมาอีกแล้ว จึงจะทำการ scan ช่องท้องเพื่อหาที่เกิดเหตุ ว่าเป็นที่ไหน และการรักษาไม้ 2 นี้ ก็จะไม่ค่อยประสพผลมาก เนื่องจากฉายแสงไม่ได้ ให้คีโมได้อย่างเดียว ซึ่งอาจจะมีการดื้อยา
    ภาวนาขอให้เป็นแค่ประเด็นที่ 1 ขอให้อย่ากลับมาอีกเลย เหนื่อยเหลือเกินกับการรักษา ท้อแล้วที่จะสู้ ตอนนี้ทำได้แค่ว่า ไม่กินเนื้อแดง ไม่ตามใจปาก ออกกำลังกายทุกวัน มีความสุขให้มาก ๆ ฟังเพลง ดูหนังที่เราชอบต่อไป อย่างมีความสุข

    ตอบลบ