วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Plase teacher สอนนักรักซะ


เนื้อเรื่อง
เคย์ คุซานางิ เด็กหนุ่มอายุ 15 ปี ได้ตกอยู่ในสภาพ "หยุดนิ่ง" (คล้ายกับสภาพเจ้าชายนิทรา) เป็นเวลาสามปี เมื่อเคย์ตื่นขึ้น เขาก็ย้ายออกจากบ้านอย่างเงียบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดจากการตัดขาดจากสังคมเป็นเวลานาน โดยเขาไปอาศัยอยู่กับลุงซึ่งมีอาชีพเป็นหมออยู่ในเมืองริมทะเลสาบแห่งหนึ่ง (ต้นแบบคือทะเลสาบคิซาคิ ในจังหวัดนางาโนะ) วันหนึ่งเคค้นพบว่า มิซุโฮะ คาซามิ อาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ของเขาความจริงแล้วเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ถูกส่งมาสังเกตการณ์โลก วันรุ่งขึ้นเคย์และมิซุโฮะถูกขังอยู่ในห้องเก็บอุปกรณ์พลศึกษาเป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยบังเอิญ เมื่อเรื่องไปถึงผู้อำนวยการโรงเรียน เคย์ตัดสินใจที่จะปกป้องความลับของมิซุโฮะโดยบอกว่าเขาและเธอเป็นสามีภรรยากัน ทั้งสองจึงต้องแต่งงานกันจริงๆ
ตัวละคร
• คุซานางิ เคย์ เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี ซึ่งยังต้องเรียนชั้นมัธยมปลายกับเด็กอายุ 15 ปีคนอื่น เนื่องจากเขามีกลุ่มอาการ "หยุดนิ่ง" ซึ่งทำให้ระบบภายในร่างกายของเขาทุกระบบหยุดการทำงานชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะกำเริบเมื่อเขามีอารมณ์แปรปรวน
• คาซามิ มิซุโฮะ ลูกครึ่งชาวโลกและมนุษย์ต่างดาวผู้ทำงานเป็นผู้ตรวจการดาวเคราะห์ระดับ C ของสมาพันธ์กาแล็กซี ตอนเริ่มเรื่องถูกส่งมายังโลกเพื่อศึกษาและสังเกตการณ์มนุษย์โลก ชอบทานขนมบิสกิตแท่งยาวเคลือบช็อคโกแลต "ป็อกชี่" (ที่จริงคือขนมป็อกกี้ แต่ในเรื่องถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ป็อกชี่" เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดเครื่องหมายการค้า) คำพูดติดปากคือ "สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดเลยนะ"
• เฮริคาวะ โคอิชิ เพื่อนร่วมชั้นของเคย์ที่ชอบและกำลังพยายามจีบเคย์อยู่ บ้านของเธอเป็นร้านสะดวกซื้อตั้งอยู่ริมทะเลสาบ
• โมริโนะ อิจิโกะ เพื่อนร่วมชั้นของเคย์ที่มีความช่างสังเกตและความนึกคิดเฉียบแหลมกว่าเด็กอายุ 15 ปีคนอื่น ความจริงแล้วเธอเคยตกอยู่ในสภาพหยุดนิ่งเป็นเวลาถึง 6 ปี (อายุจริง 21 ปี) ในหนังสือการ์ตูนชอบเฮียวสุเกะ
• มากุโมะ เฮียวสุเกะ เพื่อนร่วมชั้นของเคย์คนหนึ่ง ย้อมผมสีบลอนด์ มีนิสัยตรงไปตรงมาแต่หุนหันพลันแล่น เฮียวสุเกะมีความใฝ่ฝันว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวเพื่อเป็นนักการเมืองมาแก้ไขการเมืองน้ำเน่าของประเทศญี่ปุ่น
• มิซุมิ คาเอเดะ เพื่อนร่วมชั้นหญิงของเคย์คนหนึ่ง มีเชื่อสายไอร์แลนด์อยู่หนึ่งในสี่ส่วน ทำให้เธอมีผมสีแดง มีฝ้าที่แก้ม และตัวสูงกว่าเพื่อนหญิงคนอื่น ในฉบับภาพยนตร์การ์ตูนชอบเฮียวสุเกะ
• ชิโด มาทากุ เพื่อนร่วมชั้นของเคย์คนหนึ่ง มีนิสัยเอาจริงเอาจัง ชอบดูดาว
• มาริเอะ โปรแกรมกึ่งชีวภาพทำหน้าที่ควบคุมยานของมิซุโฮะ สามารถซ่อมตัวเองได้จึงไม่ต้องการซ่อมบำรุง ชอบกินเพรซ และสามารถเล่นกีตาร์ได้
• ยามาดะ มาซามิ อาจารย์หนุ่มผู้มีนิสัยเงียบขรึม ชอบแต่งตัวปอนๆ มีงานอดิเรกคือการประดิษฐ์เครื่องบินพลังมนุษย์ โคอิชิเป็นคนส่งอาหารให้อาจารย์ยามาดะซึ่งเป็นลูกค้าประจำของบ้านเธอ
• คาซามิ มาโฮะ น้องสาวของมิซุโฮะผู้ไม่ยอมรับเคย์ในตอนแรกแต่ก็เปลี่ยนใจยอมรับเขาในที่สุด
• คาซามิ ฮัทสึโฮะ แม่ของมิซุโฮะ ชอบเคย์ โดยบอกว่าเคย์หน้าตาเหมือนสามีชาวโลกของเธอ
• มิรุรุ โปรแกรมควบคุมยานของฮัทสึโฮะและมาโฮะ แต่งตัวเหมือนผู้หญิงและเป็นแฟนกับมาริเอะ
• เอดาจิมะ มิโนรุ ลุงของเคย์ ประกอบอาชีพเป็นหมอและทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองของเขา
• เอดาจิมะ โคโนฮะ ภรรยาของมิโนรุ ประกอบอาชีพเป็นพยาบาลของคลินิกของสามี

วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โรงเรียนนักสืบ Q


โรงเรียนนักสืบ Q เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวสืบสวนสอบสวน แต่งเรื่องโดย เซย์มารุ อามางิ และวาดภาพโดย ฟุมิยะ ซาโต้ ซึ่งเคยมีผลงานร่วมกันมาก่อนในเรื่อง คินดะอิจิกับคดีฆาตกรรมปริศนา การ์ตูนนักสืบที่ได้รับความนิยมอย่างสูงอีกเรื่องหนึ่ง ต่อมาได้มีการนำไปสร้างเป็นการ์ตูนแอนิเมชันทางโทรทัศน โดยมีเนื้อหาบางส่วนที่ดัดแปลงไปจากฉบับหนังสือการ์ตูน อีกทั้งยังมีการสร้างเป็นละครโทรทัศน์แล้ว
คิว เด็กชายผู้มีความฝันในการจะก้าวไปเป็นนักสืบ เพื่อการนั้นแล้ว เขาจึงเข้าไปสอบในโรงเรียนนักสืบ ของ ดัน โมริฮิโกะ นักสืบอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ผู้ได้รับอนุญาตพกพาอาวุธปืน เป็นกรณีพิเศษ

คิวหรือเร็นโจ คิว เด็กชายผู้เฉลี่ยวฉลาด เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มุ่งมั่นในการจะก้าวไปเป็นนักสืบ เพื่อที่จะได้เป็นนักสืบ เขาจึงไปสอบเข้าโรงเรียนนักสืบ ดูภายนอก เขาอาจจะเอ๋อๆ สักหน่อย แต่ความจริงแล้ว เขามีสติปัญญาหลักแหลม และพร้อมแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรู้จริง ซึ่งเค้าบังเอิญได้เจอกับนักสืบคนหนึ่งในตอนเด็กๆ เค้าจึงตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะเป็นนักสืบเหมือนกับนักสืบคนที่เค้าเจอตอนนั้น โดยเค้าไม่รู้เลยว่านักสืบที่เค้าเจอนั้นคือพ่อของตนเอง

มินามิ เมงุมิ : เมงุมิ หรือเรียกสั้นๆ ว่า เมงุ เด็กสาวที่เป็นเพื่อนในห้องเรียนเดียวกับคิวมีความฝันที่จะเป็นนักสืบเช่นเดียวกับคิว แม้จะดูเป็นสาวน่ารัก แต่เธอก็มีความสามารถพิเศษ คือความสามารถในการจำในชั่วเสี้ยวเวลา (ความสามารถที่จะไม่ลืมเรื่องที่ได้เห็นหรือได้ยินเพียงชั่วเสี้ยวเวลา) ไม่ว่าจะในสถานะการณ์ใด เธอก็สามารถใช้ความสามารถนี้ ช่วยในการสืบสวนสอบสวนได้เป็นอย่างดี

โทยาม่า คินทาโร่ : คินทาโร่ หรือเรียกสั้นๆ ว่า คินตะ เป็นลูกหลานของโทยามะ คินชิโร่คิตะมาฉิบุเงียว เป็นผู้สืบทอดวิชาโทยามะริวอนมิทสึ (ความสามารถในการใช้อะไรก็ได้ที่มีอยู่ให้เป็นเอาวุธหรืออุปกรณ์) คินตะเป็นผู้มีพลังเยอะที่สุดในกลุ่ม เป็นเหมือนกำลังของกลุ่ม เขาเป็นนักสืบเสี่ยงดวง ทำการสืบโดยอาศัยดวงเช่นการทอยเต๋าเป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงกระนั้นเขามีความสามารถทางด้านร่างกายสูง ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬาเคนโด้ ยูโด คาราเต้ รวมกันทั้งหมด 10 ดั้ง ระดับสายตา 4.0 และความสามารถในการดมกลิ่นเทียบเท่าระดับสุนัข

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ซิตี้ฮันเตอร์ / ผม ซาเอบะ เรียว ครับ


ซาเอบะ เรียว หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ซิตี้ ฮันเตอร์ ชายหนุ่มลึกลับที่ไม่รู้แม้กระทั่งวันเกิดของตัวเอง แฝงตัวอยู่ในชินจูกุ โดยประกอบอาชีพรับจ้างคุ้มกันนอกกฎหมาย ซึ่งผู้ว่าจ้างต่างทราบข่าวแต่ว่าให้ไปเขียนสัญลักษณ์ xyz ที่ป้ายข่าวหน้าสถานีรถไฟชินจูกุ แล้วจะได้รับการติดต่อกลับ
ซาเอบะ เรียว มีคู่หู ชื่อ มากิมูระ ซึ่งต่อมาเสียชีวิตเพราะแองเจิลดัสต์ (เป็นขององค์กรยูเนี่ยนเทโอปาซึ่งเป็นองค์การค้ายาเสพติดอันดับ 1 ของโลก) และเหมือนโชคชะตาพาไปเมื่อเขาต้องมาจับคู่เป็นคู่หูใหม่กับ คาโอริ น้องสาว (บุญธรรม) ของคู่หูที่ตายไป ความสัมพันธ์ระหว่าง เรียว และคาโอริ ค่อยๆพัฒนาไปพร้อมกับงานสารพัดรูปแบบ ศัตรูเก่าของเรียวในสมัยก่อนอย่างอุมิโบสึก็ตามมา และกลับกลายเป็นสหาย มีสาวๆมากมายที่เข้ามาว่าจ้างให้เรียวดูแลความปลอดภัย และเรียวก็มีงานอดิเรกในการย่องหาสาวๆในยามกลางคืน และในทุกเวลาที่มีโอกาส เพื่อทดลองแอ้มให้ได้สักครั้งหนึ่ง แต่จนแล้วจนรอด เรียวก็ไม่เคยได้แอ้มใครจริงๆเลยสักที เพราะต้องผจญกับค้อน100 ตันพิฆาตคู่มือคาโอริที่ใช้ป้องกันสาวๆอยู่เสมอๆ
วันหนึ่งคาโอริได้รู้ว่า เรียวไม่รู้แม้กระทั่งวันเกิดของตัวเอง เนื่องจากครอบครัวของเรียวเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตก เรียวเป็นคนเดียวที่รอดชีวิต และได้ฝึกการต่อสู้เป็นทหารรับจ้างกับ ไคบาร่า ชิน ซึ่งเป็นฝ่ายกบฎในประเทศที่กำลังคุกรุ่นด้วยสงคราม แม้กระทั่งชื่อที่ใช้อยู่ก็เป็นชื่อที่เรียวตั้งขึ้นมาเอง คาโอริจึงตั้งให้วันที่ 26 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันเกิดของเรียว เหตุผลที่เลือกเอาวันนี้เพราะเป็นวันแรกที่ คาโอริ กับ เรียว ได้เจอกัน
เรียวได้ค้นพบในเวลาต่อมาว่า ไคบาร่า ที่เขานับถือเสมือนพ่อ และสุดท้ายเป็นคนที่หลอกใช้ยากับเขาในสงครามกบฎ ทำให้เขาเคยกลายเป็นอสูรสงครามเข้าโจมตีและลอบสังหารทหารฝ่ายตรงข้ามตายเป็นจำนวนมาก และการสู้รบครั้งนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ตาของอุมิโบสึบอดในเวลาต่อมา หลังจากเรียวถอนตัวจากการเป็นทหารรับจ้าง และไคบาร่าหายสาบสูญไป เรียวก็ได้จับทีมกับคู่หูมากมายก่อนที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในญี่ปุ่น และมาจับคู่กับมากิมูระและในที่สุด เรียวก็ต้องมาปะทะกับ ไคบาร่า อีกครั้ง ความสัมพันธ์ที่ทั้งผูกพันและทั้งเป็นศัตรูระหว่างเรียว กับ ไคบาร่า เป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง เพราะขาข้างที่ขาดของไคบาร่าก็เกิดจากการเอาตัวไปช่วยเรียวจากฝ่ายตรงข้าม แต่ในที่สุดทั้งคู่ก็ต้องดวลกัน โดยมีฝ่ายเดียวที่จะรอดชีวิตไป

วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เค-อง! ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว


เค-อง! ก๊วนดนตรีแป๋วแหวว เป็นการ์ตูนสี่ช่องจากญี่ปุ่น แต่งและวาดโดย Kakifly โดยเริ่มตีพิมพ์ลงในนิตยสารของสำนักพิมพ์ โฮบุนชะ ชื่อ มังงะ ไทม์ คิราระ ฉบับเดือนพฤษภาคม 2007 และตีพิมพ์ลง นิตยสาร มังงะ ไทม์ คิราระ คารัท ฉบับเดือนตุลาคม 2008 ด้วย ส่วนอะนิเมะสร้างโดยเกียวโตแอนิเมชัน ซึ่งฉายระหว่างเดือน เมษายน ถึง มิถุนายน 2009ส่วนตอนพิเศษวางจำหน่ายไปเมื่อเดือนมกราคม 2010 และสำหรับซีซันสองนั้นใช้ชื่อว่า K-ON!! ซึ่งจะเริ่มฉายไปเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2010 ที่ญี่ปุ่น ชื่อเรื่องนี้นำมาจากคำว่า เคองงาคุ keiongakuซึ่งแปลว่า ดนตรีเบาๆ

เด็กสาวมัธยมปลาย ชื่อ ฮิราซาว่า ยุย ยังไม่รู้จะเข้าชมรมไหนดี ในขณะที่ ริทสึ และ มิโอะ นั้นกำลังตั้งชมรม K-ON ขึ้นมาใหม่ เนื่องจากรุ่นพี่ที่อยู่ชมรม K-ON ได้จบไปหมดแล้ว แต่ทว่าชมรมนี้กำลังจะถูกยุบโดยตามกฏของโรงเรียนถ้าไม่มีสมาชิกชมรมอย่างน้อย 4 คน ก่อนการลงทะเบียนชมรม ริทสึ และ มิโอะ สึมุกิ ชักชวนให้เข้าร่วมชมรม K-ON และเพื่อหาสมาชิกคนที่ 4 ทั้งสามคนจึงทำโปสเตอร์รับสมัครสมาชิก หลังจากนั้นยุยซึ่งได้เห็นโปสเตอร์เข้าเธอจึงตัดสินใจเข้าชมรมK-ON โดยที่รู้ว่าตัวเองเล่นเครื่องดนตรีไม่เป็นเลย เธอจึงไปที่ห้องชมรมเพื่อขอยกเลิก แต่ทั้งสามคนพยายามยื้อเพื่อให้ยุยเข้าชมรม โดยอ้างเหตุผลต่างๆนาๆเพื่อให้สามารถคงสถานภาพของชมรมได้... ติดตามการต่อสู้ด้วยดนตรีของเหล่าเด็กสาวมัธยมปลายจะไปถึงฝันหรือไม่...

ตัวละคร
ฮิราซาว่า ยุย Hirasawa Yui
วันเกิด 27 พฤศจิกายน ราศีธนู ส่วนสูง 156 ซม. น้ำหนัก 50 กก. กรุ๊ปเลือด O[6]
ตัวละครหลักของเรื่อง เป็นหนึ่งในสมาชิกของชมรมK-ON ใช้กีตาร์ไฟฟ้ายี่ห้อ Gibson รุ่น Les Paul Standard สี Heritage Cherry Sunburst โดยยุยตั้งชื่อเล่นให้กับกีตาร์ว่า 'กีตะ' เธอนั้นทึ่ม เรียนไม่เก่ง แต่ทว่าหากเธอตั้งใจทำอะไรแล้ว จะตั้งใจทำจนสำเร็จ เข้าชมรม K-ON เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นชมรม "เคองงาคุ" (ดนตรีเบาๆ อย่างการผิวปาก) เริ่มเล่นกีตาร์ โดยไม่มีประสบการณ์มาก่อน ไม่รู้แม้กระทั่ง จูนเนอร์คืออะไร เป็นคนลืมง่าย แต่มีประสาทสัมผัสทางดนตรีดีเยี่ยม (มีความสามารถพิเศษที่เรียกว่า เพอร์เฟคพิช เป็น 1 ใน 5 ความสามารถพิเศษเหนือมนุษย์) ขนาดจูนสายได้โดยไม่ต้องมีจูนเนอร์ มีความกล้าแสดงออกสูง ความเครียดไม่มีผลกับยุยเลย (ยุยแทบจะไม่เคยเครียดยกเว้นเรื่องขนมและของกิน) เป็นคนที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน แพ้อากาศร้อนและแอร์ ฤดูร้อนจะนอนกลิ้งไปกลิ้งมา ส่วนฤดูหนาวจะหมกอยู่แต่ในโต๊ะอุ่นขา ผลการเรียนอยู่ในระดับเฉียดฉิวตลอด

ทานากะ ริทสึ Tainaka Ritsu
วันเกิด 21 สิงหาคม ราศีสิงห์ ส่วนสูง 154 ซม. น้ำหนัก 48 กก. กรุ๊ปเลือด B ริทสึ (หรือริทจัง ชื่อเล่นที่ตั้งโดยยุย) เป็นประธานชมรมK-ON เล่นกลอง Yamaha Hipgig Drumset สาเหตุที่เธอเล่นกลองนั้นเธอบอกว่ามัน "เท่" แต่จริงๆแล้ว เธอไม่ถนัดเล่นเครื่องดนตรีที่ใช้นิ้ว เป็นคนลากมิโอะเข้าชมรม เวลาตีกลองจะตีโอเวอร์เบส (ไม่ค่อยตีฉาบกับแคลช) แต่พออยู่ในวงเสียงกลับลงตัวพอดี มักลืมเตรียมเอกสารสำคัญๆเสมอ เช่น ใบขออนุญาตทำกิจกรรมชมรม ฯลฯ ให้กับกรรมการนักเรียนประจำ เป็นคนคิดปุ๊บทำปั๊บ เป็นเพื่อนกับมิโอะมาตั้งแต่สมัยประถม ชอบแกล้งมิโอะตลอด โดยเฉพาะการแอบถ่ายรูป และเป็นคนชวนมิโอะเล่นดนตรี[8] มีน้องชายชื่อซาโตชิ
อาคิยามะ มิโอะ Akiyama Mio
วันเกิด 15 มกราคม ราศีมังกร ส่วนสูง 160 ซม. น้ำหนัก 54 กก. กรุ๊ปเลือด A สาวขี้อายประจำชมรมK-ON เล่นเบสมือซ้ายยื่ห้อ(ถนัดซ้าย) Fender รุ่น Jazz Bass สี 3-Color Sunburst ที่มีปิ๊กการ์ดลายกระดองเต่า ลักษณะรูปร่าง สูง(ที่สุดในกลุ่ม) ผมสีดำไว้ผมทรงฮิเมะคัต (ทรงผมเจ้าผู้หญิงญี่ปุ่นโบราณ) มีภาพลักษณ์ที่เยือกเย็น เย็นชา แต่กลับมีนิสัยที่ผิดกับภาพลักษณ์ภายนอก คือเป็นคนที่อบอุ่น อ่อนโยน ใจดี มีนิสัยไม่ปฏิเสธเวลามีคนขอร้อง อ่อนไหวง่าย เจ้าน้ำตา ขี้กลัว ขี้อาย แถมยังหัวโบราณมาก แต่ที่เจ้าตัวพยายามเก็กเอาไว้เพราะคิดว่าน่าอายและไม่เหมาะกับเธอ แต่เธอแสดงมันออกมาในเนื้อเพลงที่เธอแต่งที่ หวานจ๋อยและแป๋วแหวว พ่อและแม่ยังคงเห็นว่ามิโอะยังเป็นเด็กอยู่เสมอๆและมิโอะเรียกพ่อกับแม่เธอว่าปะป๋ากับมามะจริงๆแล้วชอบของน่ารักๆ แต่เพราะคิดว่าไม่เหมาะกับตัวเองและไม่อยากให้ริทสึล้อ แต่เดิมนั้นเธอจะเข้าชมรมวรรณกรรม แต่ก็ถูกริทสึเพื่อนในสมัยประถมบังคับให้เข้าชมรม K-ON เรียนเก่งมีผลการเรียนดีเลิศ (ติดTOP 10ของชั้นปี) และไม่ชอบฟังเรื่องน่ากลัว เรื่องเลือดตกยางออก และสิ่งที่น่าขยะแขยงเช่น เพรียง เป็นต้น เทียบสัดส่วนร่างกายแล้วดีเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มสมาชิก และเก่งกีฬาทุกประเภท (เป็นคนชอบดูกีฬาเป็นนักร้องนำ มักโดนรึทสึแกล้งประจำแต่ก็อัดกลับทุกทีด้วยมะเหงก มีความตั้งใจสูง เอาจริงเอาจังเกือบทุกเรื่อง เป็นคนสอนเรื่องต่างๆเกี่ยวกับกีต้าร์ให้ยุย มักตกเป็นเป้าหมายของ ซาวาโกะ แต่ใส่ชุดไหนก็น่ารักทุกชุด ด้วยความน่ารักและขี้อายของมิโอะจึงเป็นที่ชื่นชอบของคนในโรงเรียน ถึงขั้นมีแฟนคลับเลยทีเดียว

โคโตบุกิ สึมุกิ Kotobuki Tsumugi
วันเกิด 2 กรกฎาคม ราศีกรกฎ ส่วนสูง 157 ซม. น้ำหนัก 53 กก. กรุ๊ปเลือด O
สึมุกิ หรือ มุกิ สาวเรียบร้อยของชมรมK-ON เล่นคีย์บอร์ด Korg Triton Extreme 76 Key ก่อนหน้านี้เธอเริ่มเล่นเปียโนเมื่ออายุ 4 ขวบ และเคยชนะการประกวดมาแล้ว เธอเป็นลูกสาวของประธานบริษัท และมีบ้านพักตากอากาศมากมายอยู่ทั่วญี่ปุ่น ตอนที่ยุยไปซื้อกีต้าร์ เธอก็ต่อราคาให้ เธอชอบนำขนมและชามาที่ห้องชมรมเสมอ จริงๆแล้ว เธอสนใจที่จะเข้าร่วมชมรมประสานเสียง แต่ก็เข้าร่วมชมรม K-ON เพราะคำชวนแกมบังคับของริทสึ มักตื่นเต้นกับเรื่องธรรมดาๆ เช่น เข้าร้านฟาสฟู้ต ฯลฯ เป็นคนที่แข็งแรงมากแม้ต้องยกของหนักๆก็ไม่มีเหงื่อสักหยด มีฝีมือในงานศิลปะในระดับเยี่ยม นิสัยดี แต่จะมีนิสัยยูริอยู่หน่อยๆ

นากาโนะ อาซึสะ Nakano Azusa
วันเกิด 11 พฤศจิกายน ราศีพิจิก ส่วนสูง 150 ซม. น้ำหนัก 46 กก. กรุ๊ปเลือด AB อาซึสะ เป็นนักเรียนใหม่ซึ่งเข้าร่วมชมรม K-ON! เธออยู่ห้องเดียวกับอุย เล่นกีตาร์ตั้งแต่อยู่ชั้นประถม และพ่อแม่ของเธอทำงานในวงดนตรีแจ๊ซ ใช้กีต้าร์ไฟฟ้า Fender Mustang มีฉายาว่า อาซึเหมียว ซึ่งยูอิเป็นคนตั้งให้

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

หน้ากากแก้ว / นักรักโลกมายา


หน้ากากแก้ว หรือ นักรักโลกมายา (ญี่ปุ่น: ガラスの仮面 Garasu no Kamen กะระสุ โนะ คะเมน ?) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น ผลงานของ ซุสุเอะ มิอุจิ ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งนอกจากหนังสือการ์ตูนแล้ว หน้ากากแก้วยังโด่งดังจนถูกสร้างเป็นละครวิทยุ ภาพยนตร์การ์ตูน OVA ละครโทรทัศน์ ละครเวที และละครโนด้วย

เกี่ยวกับการเดินทางสู่การแสดงอันยิ่งใหญ่ ในบทประพันธ์อันลือชื่อ ที่น้อยคนนักจะสามารถแสดงได้ เรื่อง นางฟ้าสีแดง โดยเนื้อเรื่อง เสนอการประชันบทบาทของนักแสดงชายหญิง ที่ต่างจับจ้องจะแสดงเรื่อง นางฟ้าสีแดง โดยมี คิตาจิมะ มายะ และ ฮิเมกาวะ อายูมิ เป็นตัวเอก โดยตัวเอกของเรื่อง มีความสามารถทางด้านการแสดงต่างกัน และยังมีบทบาททางสังคม ภูมิหลัง ที่ต่างกัน จึงทำให้เนื้อเรื่อง มีความเข้มข้น และมีความเป็นดราม่าอย่างยิ่ง
ในตอนแรกของเรื่อง มายะ เป็นเพียงเด็กหญิงที่ดูธรรมดา แต่ด้วยความสามารถข้างในที่มี ทำให้อาจารย์สึกิคาเงะเห็นเข้า และชักจูงเธอเข้าสู่วงการโลกมายา โดยให้มายะ เข้าสู่คณะละครสึกิคาเงะ ซึ่งเป็นคณะละครที่เธอตั้งขึ้น แต่แล้วก็โดนขัดขวางโดยคณะละครคู่แข่ง คณะไดโตะ ซึ่งมี ฮายามิ มาสึมิ ผู้หวังจะครอบครองลิขสิทธิ์เรื่อง นางฟ้าสีแดง ที่อาจารย์สึกิคาเงะถืออยู่ ซึ่งคณะไดโตะมีดารานำสาวชื่อ ฮิเมกาวะ อายูมิ เด็กสาวผู้เพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน เป็นกำลังสำคัญ
ต่อมา จะเป็นช่วงที่ มายะ และ อายูมิ ฝึกตนเพื่อก้าวไปสู่เส้นทางของ นางฟ้าสีแดง โดยทั้งสองคนต่างห้ำหั่นกันด้วยความสามารถทางด้านการแสดง จนกระทั่งเธอทั้งสองคน ได้มายืนอยู่บนเวทีเดียวกัน หลายต่อหลายครั้ง ทำให้เธอทั้งสอง ตระหนัก และ กังวล กับความสามารถของทั้งสองฝ่าย
ในตอนท้ายของเรื่อง เป็นช่วงของการชิงชัยสู่เส้นทางของนางฟ้าสีแดง โดยอาจารย์ซึกิคาเงะเป็นผู้ฝึกซ้อม และจัดการแข่งขัน ชิงตัวนักแสดงและผู้กำกับนางฟ้าสีแดงจนถึงปัจจุบัน ซึ่งผู้แต่งเปรยว่ามีตอนจบอยู่ในใจแล้ว และเร่งผลิตผลงานจัดพิมพ์ใหม่นี้ให้ทันตามความต้องการของผู้อ่าน หลังพักการแก้ไขผลงานที่ถูกท้วงติงไปเป็นระยะเวลานาน

Detective Conan / ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน


ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องยาวแนวสืบสวนสอบสวน เรื่องและภาพโดยอาโอยาม่า โกโช โคนันถูกตีพิมพ์ในหลายภาษา นอกจากภาษาญี่ปุ่นต้นฉบับแล้ว ยังมีภาษาจีน, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, ไทย ฯลฯ นอกจากนี้ ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ยังได้มีการนำมาทำเป็นการ์ตูนโทรทัศน์ และ การ์ตูนภาพยนตร์ หรือ แอนิเมชันอีกด้วย

นักเรียนมัธยมปลายวัย 17 ปีคนหนึ่ง ชื่อคุโด้ ชินอิจิ มีทักษะพิเศษในการไขคดีจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วญี่ปุ่น จนได้รับขนานนามว่า เชอร์ล็อก โฮล์มส์แห่งยุคเฮเซ วันหนึ่งเขาได้ไปเที่ยวกับเพื่อนสมัยเด็กที่ชื่อ โมริ รัน ที่สวนสนุกทรอปิคอลแลนด์ และได้ไขคดีการฆาตกรรมบนรถไฟเหาะ ระหว่างทางกลับบ้าน ชินอิจิได้ไปเห็นชายสวมชุดดำ วอดก้ากำลังเจรจาแลกของต้องสงสัย แต่หารู้ไม่ว่ามีชายชุดดำอีกคน ยิน แอบอยู่ด้านหลังอยู่ ชินอิจิจึงถูกตีหัวและถูกจับกรอกยาพิษที่องค์กรของพวกเขาสร้างขึ้น นั่นก็คือยา APTX4869 ที่จะทำให้ผู้รับยาเสียชีวิตโดยไม่มีร่องรอยของยาพิษหลงเหลืออยู่เลย แต่ยากลับผิดพลาดเนื่องจากยังอยู่ในขั้นทดลอง จึงไม่ทำให้ชินอิจิเสียชีวิต แต่กลับทำให้ร่างกายหดเล็กลงกลายเป็นเด็กแทน และเพื่อจะสืบหาความจริงว่าคนพวกนั้นเป็นใคร และหายาแก้พิษเพื่อที่จะกลับคืนร่างเดิมอีกครั้ง ชินอิจิจึงกลับไปที่บ้านและไปปรึกษากับดร.อากาสะ ฮิโรชิ
เนื่องจากพ่อและแม่ของชินอิจิไปทำงานถาวรอยู่ต่างประเทศ ชินอิจิในร่างเด็กจึงไปปรึกษา ดร.อากาสะ ฮิโรชิ นักวิทยาศาสตร์ที่อาศัยอยู่ใกล้บ้านของชินอิจิ หลังจากที่รันกลับจากสวนสนุกทรอปิคอลแลนด์ ก็รีบมาหาชินอิจิที่บ้าน แต่ได้พบกับชินอิจิในร่างเด็กกับดร.อากาสะในห้องหนังสือ เมื่อรันถามชื่อชินอิจิ ชินอิจิจึงตอบไปว่า เอโดงาวะ โคนัน ซึ่งนำมาจากชื่อนักเขียนบนสันหนังสือข้างหลัง นั่นคือ เอโดงาวะ รัมโป และ อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ ดร.อากาสะจึงแนะนำให้ชินอิจิไปอาศัยอยู่ที่สำนักงานนักสืบโมริ สำนักงานของโมริ โคโกโร่ พ่อของรันนั่นเอง เผื่อว่าจะมีข่าวคราวใดเกี่ยวกับพวกชายชุดดำ ที่พ่อของรันที่มีอาชีพเป็นนักสืบ โดยที่ไม่บอกความจริงกับใครว่าตนคือคุโด้ ชินอิจิ
เพื่อต้องการหาข่าวคราวของพวกชายชุดดำ โคนันจึงต้องให้โคโกโร่มีชื่อเสียงโด่งดัง ซึ่งจะทำให้มีผู้จ้างวานไปสืบคดีมากขึ้น และจะทำให้มีโอกาสที่จะได้เบาะแสขององค์กรชุดดำมากขึ้นเช่นกัน โดยใช้อุปกรณ์หลักๆ 2 อย่างคือ นาฬิกายิงยาสลบ ยิงให้โคโกโร่สลบ และ หูกระต่ายเปลี่ยนเสียง เพื่อเปลี่ยนเสียงเป็นเสียงโคโกโร่แล้วคลี่คลายคดีแทน จึงทำให้เกิดฉายาว่า โคโกโร่นิทรา ขึ้นเพราะเวลาคลี่คลายคดีจะเหมือนกำลังนอนหลับอยู่นั่นเอง
ชินอิจิเมื่ออยู่ในร่างของเด็กจึงต้องกลับไปเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนประถมเทตันใหม่อีกครั้ง และได้รู้จักกับ โยชิดะ อายูมิ, ซึบุรายะ มิซึฮิโกะ, และโคจิมะ เก็นตะเพื่อนร่วมชั้นแล้วได้ก่อตั้งขบวนการนักสืบเยาวชนขึ้นมา
การสืบหาองค์กรชุดดำและยาแก้พิษของโคนันก็ได้ดำเรื่อยมา ได้เกิดคดีต่างๆ และค้นพบบุคคลสำคัญต่างๆที่เกี่ยวข้องกับพวกชายชุดดำ หรือองค์กรชุดดำมากขึ้น ไฮบาระ ไอหรือ มิยาโนะ ชิโฮ ผู้ประดิษฐ์คิดค้นยา APTX4869 เธอได้ทรยศองค์กร เพราะว่ายิน ได้สังหารพี่สาวของเธอ มิยาโนะ อาเคมิโดยไม่ให้คำอธิบายต่อเธอ เธอจึงถูกควบคุมตัวแล้วขังในห้องก๊าซเพื่อรอคำสั่งประหารชีวิตเท่านั้น เธอคิดว่ายังไรก็คงตายจึงกรอกยาที่เธอประดิษฐ์ขึ้น APTX4869 แล้วกลับเป็นเด็กแล้วออกมาจากช่องทิ้งขยะในห้องขัง แล้วได้มาอยู่บ้านของดร.อากาสะ เพื่อคิดค้นยาถอนพิษของ APTX4869
โคนันได้ทำความรู้จักกับเหล่า FBI ที่มาที่ญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์เดียวกัน โคนันจึงได้ร่วมมือกับ FBI ในการสืบสวนแล้วจับหนึ่งในสมาชิกขององค์กรชุดดำได้คือ มิซึนาชิ เรย์นะ แต่เธอกลับเป็นสายลับของ CIA ที่มาที่ญี่ปุ่นด้วยจุดประสงค์เช่นเดียวกัน เธอจึงกลับเข้าไปในองค์กรเพื่อหาวิธีในการจับกุม

ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ภาค 1 3 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ภาค 2 3 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ภาค 3 5 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ภาค 4 7 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ภาค 5 7 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน Advenger1 9 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน Advenger2 6 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน Special 2 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน Gold 1 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน New series 2. DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน X-file 7 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ปี 7 3 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ปี 8 3 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ปี 9 7 DVD (V2D)
ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ปี 10 5 DVD (V2D)

วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554

We got married : คู่รักนักศึกษา คังอิน + อึยุนจี








หลังจากคู่รักสุดโจ๊ก ''คิมฮยอนจุง และ ฮวังโบ'' อำลาผู้ชมไปแล้ว ล่าสุดรายการวาไรตี้ We Got Married ก็ขอจับคู่นักร้องหนุ่มป็อปหน้าใส ''คังอิน'' (Kang In - 23) แห่ง Super Junior บอยแบนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ และพี่สาวคนสวย ''อียุนจี'' (Lee Yoon Ji - 24) นักแสดงสาวจาก Pure19 และพรีเซนเตอร์โฆษณาหลาย ๆ ตัวในเกาหลี ใน We got married ครั้งนี้ทั้งคู่มาอยู่ร่วมกันในฐานะคู่รักนักศึกษา เพราะทั้งสามีคังอิน ก็ยังเรียนหนังสืออยู่ ยูนจีก็ยังเรียนอยู่เช่นกัน เพราะทั้งคู่ยังเรียน ทำให้พวกเขาต้องประหยัดเงิน ไม่สามารถฟุ้งเฟ้อเหมือนคู่อื่น ๆ ได้ คังอินก็พยายามจะเป็นสามีที่ดี แต่ด้วยความที่เป็นเด็กกว่าจนหลายๆ ครั้งเวลาทำอะไรเลยดูเป็นเล่นไปเสียหมด ภรรยายุนจีเสียอีกที่ดูเหมือนหัวหน้าครอบครัว และทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากกว่า เธอดูสุขุม เงียบ และดูน่าเชื่อถือ แต่ในอีกมุมก็ดูเป็นภรรยาที่พร้อมจะตามใจสามีในทุกเรื่อง เพราะคังอินเองก็ดื้อ และตามใจตัวเองเหมือนกัน สิ่งเดียวที่เค้าจะให้ความสุขภรรยาของเขาได้ คือเสียงหัวเราะ แต่ความโรแมนติกก็ไม่แพ้ใคร เขาขอยุนจีแต่งงานกลางตลาด คุกเข่าขอกลางสายตาผู้คนมากมาย ทำให้ยุนจีแพ้ในความรักของเขาตอนนี้ พอได้ใช้ชีวิตร่วมกันสักพัก คงอินก็เปลี่ยนไป เค้าอยากทำอะไรให้ยุนจีบ้างที่ยอมรับรักเขามาเป็นภรรยาของเขา ยอมอยู่บ้านเช่าที่ประตูพังอยู่ เขาจึงพยายามอย่างมากที่จะทำให้ภรรยาของเขาสบาย น่าสงสานยุนจีวมากในตอนแรก เพราะคังอินไม่มีเงิน จึงไม่มีที่พักที่หรูหรา หรืออยู่สบาย ๆ ให้กับภรรยาได้ ห้องที่เขาพอจะหามาได้ คือห้องเช่าแคบ ๆ ทีฮีตเตอร์ก็เสีย แม้แต่ประตูห้องนอนก็ไม่สามารถเปิดจากทางด้านในได้ แต่เธอก็อดทน ไม่ปริปากบ่น ทำงานบ้านทุกอย่าง ให้คังอินอยู่อย่างสบาย จนสบายมากเกินไป ตอนแรกเขาไม่ยอมหยิบจับงานบ้านอะไรช่วยเลย และยุนจิก็มี่ไม้ตายคือ ให้แม่ของเธอมาอบรมลูกเขย เขาจึงยอมถูบ้าน ล้างจาน เพราะคุณแม่ยายไม่พอใจเอาเสียเลยที่ลูกเคยไม่เอาถ่านแบบนี้ แต่ยุนจีก็ออกรับแทนว่า คังอินทำงานข้างนอกอย่างหนัก แม่ยายทนเห็นลูกสาวลำบากไม่ได้ เลยซื้อที่นอนและเตียงให้เป็นของขวัญแต่งงาน แล้วคังอินก็เอาคืน เมื่อคุณพ่อของคังอินมาเยียมลูกสะใภ้ แต่จริง ๆ แล้วกลับมาอยู่ข้างเดียวกับลูกสะใภ้ซะงั้น แล้วของขวัญจากคุณพ่อคังอิน ก็คือเตาแก๊สอันใหม่ ทั้งสองก็พยายามปรับตัวเข้ากันให้ได้ แต่ดูคู่นี้แล้ว สงสารภรรยาจริง ๆ นะ (แอบเห้นใจเอง)

Manny
















ชื่อเรื่อง: Manny / 매니
ประเภท: โรแมนติก, ซิทคอม
จำนวนตอน: 16
กำกับโดย: อียองแฮ, พัคซูชุล
เขียนบทโดย: ซุงมินจิ , พัคแจฮยอน

เรื่องราวของ คิมลีฮัน (รับบทโดย ซอจีซอก) ชายหนุ่มรูปงามร่างกายสูงโปร่ง ผู้สมบูรณ์แบบ เขาสำเร็จการศึกษาและได้รับใบประกาศนียบัตรจากสถาบัน ไอวี่ เลจ (Ivy League) ลีฮันมีความเชี่ยวชาญในด้านการดูแลเด็ก ที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่เกาหลี ทว่าวันหนึ่งเขาถูก ซอโดยัง (รับบทโดย ชอยจองยุน) หญิงสาวจอมโก๊ะว่าจ้างให้เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็ก 2 คน นั่นก็คือ ลูกสาวและลูกชายของเธอเอง ได้แก่ อึนบี และ จองมิน แล้วเขาจะรับมือกับสถานการณ์ครั้งนี้อย่างไร ติดตามชมความสนุกครั้งนี้ได้ใน Manny

ซอจีซอก รับบทเป็น คิมลีฮัน(Seo Ji-seok as Kim Yi-Han)
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผู้มีรสนิยมที่ชอบความสมบูรณ์แบบ เป็นที่จ้องมองของสาวๆ เขามีประสาทสัมผัสที่ดีเลิศ มีสัญชาตญาณ
ที่เข้าถึงจิตใจของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี และเป็นผู้เชียวชาญในด้านการอบรม เลี้ยงดูเด็ก ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเป็นคนเขียนหนังสือคู่มือดูแลเด็กที่ฮิตติดอันดับสูงสุดของเกาหลี

ชอยจองยุน รับบทเป็น ซอโดยัง(Choi Jung-yoon as SEO DO-YOUNG)
เธอเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกคนเดียวถึง 2 คน เธอเป็นแม่ที่อบอุ่นและเป็นแม่ที่มักจะวิตกกังวลในเรื่องต่างๆ แต่บ่อยครั้งที่เธอไม่ค่อยมี
ความรอบคอบทั้งในระหว่างการทำงานและที่บ้าน เธอสามารถทำทุกอย่างได้ดีด้วยความช่วยเหลือจากพี่สาวของเธอและ
ฮยอนจุง เพื่อนรักของเธอ คนที่ทำงานในร้านเสื้อผ้ากับเธอ

บยอนจองซู รับบทเป็น เจนิช(Byun Jung-soo as Janice)
พี่สาวที่มีความสุขกับการทำงาน เธอไม่เคยมีลูก เธอพอใจกับอาชีพนางแบบ ครั้งหนี่งเธอเคยเป็นถึงผู้บริหารบริษัทโมเดลลิ่ง
เลยทีเดียว เธอมั่นใจว่าตัวเองสวย เสมอ แต่ถึงกระนั้นเธอ ก็ทำหน้าที่ป้าที่ดีช่วยดูแลหลานสาวและหลานชายของเธอ

คิมซุก รับบทเป็น กูฮยอนจุง(Kim Sook (김숙) as Goo Hyun Jung)
เพื่อนที่ดีที่สุดของโดยัง เธอก็ทำงานที่ร้านเสื้อผ้าของโดยัง และยังช่วยโดยังเลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 2 คน ของเธออีกด้วย

กูซึงฮยอน รับบทเป็น โอจุงมิน(Goo Seung Hyun as Oh Jung-Min)
จองมิน น้องชาย วัย 7 ขวบ เป็นเด็กชาย ที่มีความน่ารักสดใส ออกจะขี้อาย รักการอ่านหนังสือ เขาเป็นเด็กที่ไม่ค่อยชอบพูด
มาก และชอบเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร

จองดาบิน รับบทเป็น โออึนบี(Jung Da Bin as Oh Eun-Bi)
อึนบี พี่สาววัย 10 ขวบ เจ้าหญิงที่ออกแนวเด็ดเดี่ยว กล้าหาญเกินวัย เธอมักจะคิดว่าเธอโตเป็นสาวแล้ว ทำให้บางทีเธอออก
จะดูเหมือนเป็นเด็กที่ก้าวร้าว ไม่ยอมฟังใคร และมักจะชอบก่อกวนพี่เลี้ยงทุกคนที่แม่เขาจ้างมา ถึงแม้เธอจะแสดงท่าทางที่
แข็งกระด้าง แต่โดยธรรมชาติแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นเด็กที่ไม่ดี

I am Legend


Title: I am Legend / Naneun Junseolida / 나는 전설이다
Genre: Romance
Director: Kim Hyung Sik
Screenwriter: Kim Yoon Jung
Broadcast network: SBS , Monday & Tuesday 20:55
Broadcast period: 2010-Aug-2 (replacing Coffee House)

"โซลยี" (แสดงโดย คิมจุงอึน) ซึ่งเป็นนักร้องนำของวงร็อคหญิง อดีตก็เคยก่อตั้งวงดนตรี
สมัยเรียนไฮสคูล จากนั้นเธอก็ได้แต่งงานกับครอบครัวไฮโซ แต่กลับมีพฤติกรรมกดขี่ข่มเหงลูกสะใภ้
พร้อมกับบีบให้หย่าร้างกับ ชาจีวุค (แสดงโดย คิมซึงซู) สามีของเธอ ทำให้เกิดแรงผลักดัน
ตัดสินใจฟื้นวงร็อคหญิงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเพื่อเรียก ศักดิ์ศรีของตัวเองคืนมา โดยใช้ชื่อวงว่า "อาจุมม่า"
พร้อมๆ กับที่ต้องต่อสู้กับปัญหาหย่าร้างในชีวิตคู่ด้วย

ในทีสุดแล้วเธอก็ต้องหย่าร้างกับสามี และ และเริ่มต้นอาชีพนักร้องนักดนตรีอย่างจริงจัง
พร้อมทั้งเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ กับ นักกีต้าร์หนุ่มมืออาชีพ จางแทฮุน (แสดงโดย อีจุนฮยอก)
เรื่องราวของเธอจะเป็นอย่างไร ติดตามชม
Lee Jun-Hyeok รับบทเป็น Jang Tae-Hyeon
Kim Jeong-Eun รับบทเป็น Jeon Seol-Hee
Kim Seung-Su รับบทเป็น Cha Ji-Wook
Hong Ji-Min รับบทเป็น Lee Hwa-Ja
Hyeon Jyu-Ni รับบทเป็น Yang Ah-Reum
Jang Shin-Yeong รับบทเป็น Park Soo-In

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554

City Hunter / ซิตี้ ฮันเตอร์


ซิตี้ ฮันเตอร์ ดัดแปลงมาจากการ์ตูนยอดฮิต ผลงานการเขียนของนักเขียนการ์ตูนชื่อดังแห่งญี่ปุ่นอย่าง ซึกาสะ โฮโจ (Tsukasa Hojo)

ซิตี้ ฮันเตอร์ เรื่องราวของ อียุนซุง (รับบทโดย อีมินโฮ) นักสืบหนุ่มเพลย์บอย อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่ผันตัวมาเป็นนักสืบ วันหนึ่งเขาได้พบกับสาวสวยอย่าง คิมนานา (รับบทโดย พัคมินยอง) เธอเองก็เป็นบอดี้การ์ดประจำ บลูเฮ้าส์ ( "Blue House" คือ สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ) เธอสูญเสียครอบครัวไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตั้งแต่นั้นมาเธอจึงเลี้ยงชีพด้วยการทำงานพาร์ทไทม์มากมาย เธอถูกทางรัฐบาลส่งมาทำงานร่วมกับยุนซุง ดังนั้นเขาและเธอจึงต้องร่วมมือกันสืบคดีและแก้ไขปริศนาต่างๆ เมื่อเวลาผ่านไป เขาและเธอเริ่มตกหลุมรักกันและกัน แต่ทว่าความรักมักมีอุปสรรคเสมอ เมื่อ คิมยองจู (รับบทโดย อีจุนฮยอค) อัยการสุดหล่อ ก้าวเข้ามาและเริ่มตกหลุมรักนานาเช่นกัน แล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาจะทำอย่างไรกันละ?

อีมินโอ รับบท อียุนซอง
(Lee Min Ho as Lee Yoon Sung)
ชายหนุ่มสุดหล่อ มาดดี ฉลาด และได้รับปริญญาเอกจาก MIT เขาเกิดเมื่อ 9 ตุลาคม 1983 ซึ่งเป็นวันที่มีการวางระเบิดกรุงย่างกุ้ง (พม่า) เขาถูกลักพาตัวโดยอีจินเพียว และได้รับการเลี้ยงดูจนเติบโต แถมยังเรียกจินเพียวว่าพ่ออีก โดยที่ตนเองก็ไม่เคยรู้ความจริงมาก่อนเลย เขาผ่านการฝึกอบรมพิเศษในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและผ่านการฝึกทักษะการเรียนรู้การอยู่รอดที่จะสามารถอยู่รอดได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นในสนามรบหรือแม้กระทั่งทะเลทราย

พัคมินยอง รับบท คิมนานา
(Park Min Young as Kim Nana)
บอดี้การ์ดประจำบลูเฮ้าส์ (Blue House) ซึ่งขณะนี้เธอทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของลูกสาวท่านประธานาธิบดี คิมนานาพลัดพรากกับพ่อแม่ของเธอจากอุบัติเหตุ ดังนั้นเธอจึงอาศัยอยู่กับลูกสุนัขเพียงลำพังในอพาร์ทเม้นเล็กๆ ใกล้บลูเฮ้าส์ เธอมีฐานะยากจน จึงจำเป็นต้องทำงานนอกเวลาในเวลากลางคืน แต่อย่างไรก็ดีเธอคิดว่าเธอภาคภูมิใจในอาชีพบอดี้การ์ดให้แก่รัฐบาลและมุ่งหวังที่จะทำงานนี้จนกระทั่งเกษียณ

อีจุนฮยอค รับบท คิมยองจู
(Lee Jong Hyuk as Kim Yong Ju)
อัยการหนุ่มหล่อหัวกะทิประจำสำนักอัยการกรุงโซล เขาเป็นคนเอาการเอา งาน เถรตรง และรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานอย่างมาก จนบางครั้งก็ทำให้ เขาต้องขัดแย้งการหัวหน้างานบ่อยครั้ง ชายหนุ่มผู้ซึ่งไม่เคยเชื่อในความ รัก จนกระทั่งได้มาพบกับคิมนานา และก่อเกิดเป็นรักสามเส้าระหว่างเขา คิมนาน และยูนซอง

คูฮารา รับบท ชเวดาฮเย
(Goo Hara as Choi Da Hye)
ลูกสาวคนเล็กของประธานาธิบดี ผู้มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส เธอต้องการให้พ่อของเธอสิ้นสุดวาระตำแหน่งประธานาธิบดีโดยเร็ว เพราะว่าเธอเบื่อกับการที่ต้องมามีบอดี้การ์ดคอยติดตามวนเวียนอยู่รอบๆตัวตลอดเวลา ทำให้เธอไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเช่นคนปกติทั่วไปตามที่เธอต้องการ

ฮวางซุนฮี รับบท จินซุนฮี
(Hwang Sun Hee as Jin Sun Hee)
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ขนาดเล็กที่มีความใกล้ชิดกับบลูเฮ้าส์เป็นพิเศษ (Blue House) เนื่องมาจากเธอทำหน้าที่รับผิดชอบในการฝึกสุนัขตำรวจให้แก่บลูเฮ้าส์ จึงทำให้เธอสามารถเข้าออกที่นั่นได้บ่อยครั้ง

Miss Ripley Who I Loved


Miss Ripley สร้างจากเค้าโครงชีวิตจริงซึ่งเคยเป็นข่าวอื้อฉาวโด่งดังของหญิงสาวที่ชื่อว่า ชินจองอา อาจารย์แห่งมหาวิทยาลัยทงกุกและหัวหน้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะซองกค ผู้ที่เคยปลอมแปลงข้อมูลส่วนตัวและสร้างข้อมูลเท็จด้านวิชาการขึ้นมา จนต้องถูกไล่ออกและถูกตัดสินจำคุกยาวนานถึง 18 เดือนเลยทีเดียว"จะเป็นอย่างไรเมื่อความรักกลายเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง" จางมีริ (รับบทโดย อีดาเฮ) หญิงสาวที่เติบโตในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า จนกระทั่งถูกครอบครัวชาวญี่ปุ่นรับไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม แต่ทว่าความโชคดีกลับกลายเป็นสิ่งเลวร้ายสำหรับเธอ เมื่อเธอต้องถูกขายตัวเพื่อชดใช้หนี้พนันที่พ่อบุญธรรมชาวญี่ป่นก่อไว้ มีริจึงต้องหนีกลับไปเกาหลี เธอต้องต่อสู้ดิ้นรนเพียงลำพัง การทำงานของเธอนั้นก็เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะด้วยวุฒิการศึกษาที่จบเพียงชั้นมัธยมปลาย แถมเธอยังมักจะโดนลวนลามทางเพศโดยผู้บริหารระหว่างการสัมภาษณ์งาน แต่ทว่าวันหนึ่ง จะว่าฟ้าเปิดโอกาสให้เธอก็ได้ เธอได้พบกับ นาฮีจู (รับบทโดย คังฮเยจอง) รุ่นน้องที่เธอเคยรู้จัก มีริจึงสวมรอยวุฒิการศึกษาของ ฮีจู รุ่นน้องของเธอโดยไม่ตั้งใจ จุดเริ่มต้นการโกหกของเธอจึงเริ่มต้นขึ้น เธอคิดว่าการโกหกจะนำมาซึ่งความสำเร็จ และอำนาจ แต่เธอก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่า สิ่งนั้นจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดต่อตัวเอง คนรอบข้าง รวมไปถึงคนที่เธอรัก และคนที่รักเธออย่าง ยูทากะ (รับบทโดย ปาร์คยูชอน) หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นเกาหลี ลูกชายเจ้าของโรงแรม ผู้ซึ่งเคยผิดหวังในความรัก จนกระทั่งเขาได้พบกับมีริ หญิงสาวที่เขาคิดว่าเธอจะสามารถเติมเต็มหัวใจที่เจ็บปวดและเงียบเหงาของเขาได้ ทั้งนี้ยังมีชายอีกคนที่ตกหลุมรัก มีริ เช่นกัน จางมยองฮุน (รับบทโดย คิมซึงวู) อดีตหมอศัลยกรรม ผู้ผันตัวเองมาเป็นผู้จัดการโรงแรม เรื่องราวความรัก อำนาจ และการหลอกลวงจึงเริ่มต้นขึ้น มีริจะเป็นอย่างไรต่อไป เธอจะถลำลึกไปมากแค่ไหน แล้วยูทากะจะสมหวังกับรักครั้งนี้หรือไม่ ติดตามชมได้ใน "MISS RIPLEY" ซีรีส์เกาหลีอีกเรื่องที่คอซีรีส์ไม่ควรพลาด
อีดาเฮ รับบท จางมีริ หรือ มิราอิ (มิไร)
(Lee Da Hae as Jang Mi Ri)"เธอต้องการทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ถึงแม้ว่ามันจะจอมปลอมก็ตาม" หญิงสาวผู้ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยววนเวียนอยู่ในโลกแห่งความมืดมน เธอตรงไปตรงมา มั่นใจ ไม่เคยหวาดกลัวต่อสิ่งใด และมองโลกตามความเป็นจริง เธอถูกทอดทิ้งตั้งแต่เด็ก สิ่งนั้นเองทำให้มีริหมดความเชื่อมั่นในสังคมหรือแม้กระทั่งผู้คน ดังนั้นเธอจึงมีอารมณ์รุนแรง เห็นแก่ตัว และละโมบ หลังจากที่ถูกขายเพื่อชดใช้หนี้พนันให้แก่พ่อเลี้ยงของเธอที่ญี่ปุ่น มีริก็หนีกลับไปเกาหลี และเริ่มทำงานในโรงแรม เพื่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธออีกครั้ง แต่ทว่า...

ปาร์คยูชอน รับบท ยูกาตะ (ชื่อเกาหลี ซงยูฮยอน)
(Micky Yoochun as Yukata)"เขามีโลกที่เพียบพร้อมทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ทว่าสิ่งนั้นกลับเป็นสิ่งจอมปลอม" ทายาทรีสอร์ทมอนโด หนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นเกาหลี รอบคอบ มองแต่เพียงความจริง และนี่คือเจ้าชายผู้ทรงเสน่ห์แห่งยุค ลึกๆในใจเขาโหยหาความรักจากผู้เป็นแม่ผู้ให้กำเนิด แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดต่อแม่บุญธรรมที่ไม่สามารถมีบุตรเองได้ ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงหวังว่าจะสามารถช่วยทำงานที่บริษัทได้ เขามีความผูกพันกับแม่เลี้ยงเป็นอย่างดี ต่อมาเขากลับมาเกาหลีเพื่อมาช่วยดูแลรีสอร์ท จนกระทั่งยูฮยอนได้พบกับมีริที่หอพักนักศึกษาชั่วคราวที่เขาพักอาศัยอยู่ และเห็นว่ามีริก็มีความเหงา ความว้าเหว่คล้ายๆ กับเขาเช่นกัน

คิมซึงวู รับบท จางมยองฮุน
(Kim Seung Woo as Jang Myung Hoon)
"เขาเชื่อในความรัก แต่ทว่ากลับสูญเสียทุกอย่างไป" ผู้จัดการโรงแรม ผู้ชายที่แสนจะสมบูรณ์แบบทุกอย่าง ต้องการเป็นที่หนึ่งเสมอ และเขาก็เป็นที่หนึ่งอยู่บ่อยครั้ง ชายพูดน้อย รอบคอบ เถรตรง สุขุม มีความรับผิดชอบสูง เมื่อตัดสินใจสิ่งใดลงไปแล้ว ไม่เคยมองกลับหลัง ถือเป็นบุคคลที่ไว้ใจได้เลยทีเดียว แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะพึ่งพาได้เสมอไป มยองฮุนพบมีริโดยบังเอิญ และให้ความช่วยเหลือเธอ จนกระทั่งตัวเขาเองก็ตกหลุมรักเธอ

คังฮเยจอง รับบท นาฮีจู
(Kang Hye Jung as Na Hee Joo)
"เธอเชื่อว่าโลกใบนี้สวยงามเสมอ" เด็กหญิงผู้ที่เติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งเดียวกับมีริ ตั้งแต่เด็ก ฮีจูเห็นมีริเป็นเหมือนไอดอล และมักจะคอยติดตามมีริไม่ห่าง ฮีจูเป็นคนอ่อนน้อม ไร้เดียงสา อ่อนแอ แต่่เธอก็ฉลาดและเรียนรู้ไว เธอสูญเสียพ่อแม่ไปจากอุบัติเหตุ จึงทำให้เธอกลายเป็นเด็กกำพร้า เธอแยกจากมีริ เมื่อครั้งที่มีริถูกรับไปเลี้ยงที่ญี่ปุ่น เธอก็หวังว่ามีริจะมีความสุข แต่ทว่าวันหนึ่งเธอและมีริก็พบกันอีกครั้ง มีรินำวุฒิการศึกษาของฮีจูไปแอบอ้าง เธอจึงต้องการที่จะพิสูจน์ความจริง แต่กลับต้องเผชิญกับเหตุการ์อันตรายที่ไม่คาดคิดมาก่อน

We got married : คู่รัก Badboy-Badgirl : Crown J + Seo In Yong


การที่ใครหลายคนบอกว่า มนุษย์เราเป็นมนุษย์ต่างดาว ผู้ชายมากจากดาวอังคร และผู้หญิงมาจากดาวศุกร์ ดูจะเป็นคำพูดที่สนับสนุกชีวิตคู่แต่งงานของหนุ่มแรพโย่ Crown J และภรรยาสาวสุดเซ็กซี่ Seo in yong จากวง Jewelry เนื่องจากทั้งคู่อมริกันจ๋ากันตั้งแต่ตอนแรก การแสดงออกจึงจะมากกว่าคู่อื่น ๆ การกอด การหอมแก้ม การเรียกชื่อกันแบบสามีภรรยา เช่น หนุ่มเจ เรียกอินยองว่า เบเบ๋ ที่รัก ได้อย่างไม่มีเขิลอาย และอินยองเองก็หนุ่มเจว่า ที่รัก พี่ แทบทุกคำ แต่การแสดงออกกับข้างใจจิตรใจจริง ๆ มันต่างกัน เนื่องจากทั้งคู่มีความคาดหวังซึ่งกันและกันอยู่สูง อินยอง เป็นหญิงสาวที่รักสวยรักงาม มั่นใจในตัวเองสูง และคิดว่า ผู้ชายจะต้องเป็นฝ่ายให้เสมอ และเธอซึ่งเป็นผู้หญิงจะต้องเป็นฝ่ายรัก ฉะนั้นเรื่องของขวัญ และเทศกาลต่างๆ เธอจะให้ความสำคัญมาก ทุกเทศกาลเธอจะต้องได้รับของขวัญจากฝ่ายชาย โดยเธอลืมไปว่าจะต้องเป็นผู้ให้ด้วย ด้วยเธอเป็นคนรักการแต่งตัว การจะทำอะไรหลาย ๆ อย่างในบ้าน เธอจะเพิงเฉยในตอนแรก เช่นการทำอาหารเธอเป็นศูนย์ การล้างจานเธอไม่หยิบ เธอรักการชอปปิ้งและสะสมรองเท้าแบนด์เนมเป็นชีวิตจิตใจ แต่หนุ่มเจ จะพยายามให้เธอมีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตคู่ และให้เธอรู้จึกคิดถึงคนอื่นไปด้วย โดยการสอนเธอและแกมบังคับให้เธอปรับเปลี่ยนตัวเอง หนุ่มเจเองก็เป็นคนที่เป็นผู้ใหญ่ในบางครั้ง แล้วก็มีมุมเด็ก อยากเอาชนะในบางหน บางครั้งเขายอมอ่อนข้อให้อินยองเสมอ แต่เค้าก็จะมีมุมลองใจ และสอนอินยองไปในตัว จุดพลิกผันของทั้งสองให้เข้าใจกันมากขึ้น เมื่อคุณแม่ของเจ มาหา ลูกสะใภ้ก็ต้องทำหน้าที่ลูกสะใภ้ที่ดี หาของขวัญและพยายามเข้ากับแม่สามีให้ได้ ซึ่งอินยองสอบผ่าน ตอนแรกที่แม่หนุ่มเจเจออินยองดูไม่ค่อยชอบ และมีตำหนิอยู่บ้างเพราะที่ผ่านมา อินยองไม่เคยทำอาหารให้สามีทานเลย แต่พอได้พูดคุยเธอทำให้แม่สามีชอบเธอได้ภายใน 1 วัน จนแม่หันมาเข้าข้างอินยอง หนุ่มเจถึงกับงอน แล้วพวกเขาทั้งสองก็ปรับตัวเข้ากันได้ เจรู้ว่าอินยองรักรองเท้าทุกคู่ของเธอเหมือนกับที่เขารักแหวน หมวก และรองเท้า ทั้งคู่ชอบเหมือนกันคือ ชอบซื้อของแบนด์เนม Limited Edition เราจะได้เห็นฉากพี่เจกับน้องอินยองทะเลาะกันทุกฉาก แต่ไม่นานพวกเขาก็ดีกัน และยิ่มให้กัน ไม่เกิน 5 นาที ฉากสกินชิพไม่ต้องพูดถึง เวลาอินยองดีใจ หรือเจทำอะไรให้เธอซึ้ง พอใจ เธอจะแสดงออกมาทันที โดยการกอด จูบ หอมแก้ม เสมอ น่ารักมากไม่ควรพลาดหามาดู เพราะจะมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าคุณตลอดเวลาที่ชม จริง จริ๊ง...

We got married : คู่รัก Badboy – สาวหวาน ฮวานฮีน + ฮวาโยบิ


สำหรับคู่นี้คือคู่ของ ฟานี่ หรือ ฮวานฮี นักร้องดูโอ้หนุ่มเสียงดีจาก Fly to the Sky กับ ฮวาโยบิ นักร้องสาวเสียงใสปานระฆัง 4D แรกพบของคนสองคน เนื่องจากเป็นคู่ที่อายุเท่ากัน แต่ด้วยรูปลักษณ์ภายนอก หนุ่มฟานี่เค้าจะดูหน้าใสกิ๊กขวัญใจสาว ๆ ทางด้านเจ้าสาว ฮวาโยบิ จะออกแนวสาวร้างท้วม มีความโรแมนติกสูงมาก ไลฟ์สไตร์ของทั้งสองคนจึงต่างกัน ฟานี่จะออกแนวแบดบอย เป็นคนไม่ค่อยจะสนใจใคร ขี้เล่น ชอบแกล้ง ชอบอำ จนบางครั้ง ฮวาโยบิ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ตอนนี้คุณสามีของเธออยู่โหมดไหน จึงมักจะตกเป็นเหยื่อการแกล้ง การอำของฟานี่เสมอ เขามักจะล้อภรรยาเขาเรื่องสำเนียงการพูด เพราะเธอจะพุดได้ช้ามาก แต่ในอีกมุมหากเรามองข้ามรูปลักษณ์ภายนอก เธอเป็นกุลสตรีทีมีฝีมือเก่งกาจในเรื่องการทำอาหารที่อยู่ในระดับแดจังกึมเลยก็ว่าได้ เมื่อต้องมาอยู่รวมกันใหม่ ๆ ฟานี่จากที่เป็นคนดูไม่สนใจภรรยา แต่เมื่อเจอลูกอ้อน เจอความไร้เดียงสาของเธอ เขาก็ไม่เคยสักครั้งที่จะนิ่งดูดาย เมื่อครั้งที่ต้องมี Mission ต้องไปฮันนี่มูนกัน ฮวาโยบิคิดว่า จะต้องโรแมนติคมาก ๆ ฟานี่ต้องพาเธอไปฮันนี่มุนที่โรงแรมหรู สถานที่สวย ๆ สุดแสนโรแมนติกแน่ๆ เธอจึงเตรียมตัวหลาย ๆ อย่างเพื่อทำให้สามีประทับใจ แต่ ฟานี่กลับพาเธอมาตั้งแค้มป์บนเขา สองคน นอนดูดาว ทำให้คุณภรรยาช็อคและไม่คาดคิด ทำให้เกิดความหงุดหงิดที่สามีเลือกมาในที่แบบนี้ แต่สุดท้ายเธอก็ยอมรับได้ และฟานี่เองก็รู้สึกผิดที่ทำให้ภรรยาผิดหวัง เพราะขาต้องการพาภรรยาออกมาอยู่กันเงียบๆ บรรยากาศส่วนตัว เมื่อเขาขอโทษ เธอก็ยอมให้อภัย และเอาสิ่งที่เธอเตรียมไว้มาเซอร์ไพรส์ฟานี่ คือการแต่งชุดแดงหรู เล่นเปียโนและร้องเพลงให้เขาฟัง ถึงแม้สถานที่ไม่อำนวย เธอก็ทำมันออกมาได้ดัและมีรอยยิ้มจากสามีตลอดเวลา
เมือถึงคราวที่ภรรยาต้องเป็นผู้เลือกเรือนหาให้สามีชอบ เธอคิดว่า การที่เขาพาไปอันนั่มูนบนเขา แสดงว่าเขาต้องเป็นคนรักธรรมชาติ เธอจึงเลือกเรือนหอแบบบ้านเกาหลีสมัยโบราณหลังใหญ่ หวังให้สามีประทับใจ แต่ ความจริงแล้ว ฟานี่แอบหวังไว้ว่า ภรรยาต้องรู้ใจเขาว่าเขาขอบความสะดวกสยายแบบโรงแรมหรูใจกลางเมือง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เมื่อเห็นบ้านที่ภรรยาเลือก เขาก็คิดว่าเธอแค้นฝังหุ่นแน่ ๆ เลยแก้แค้นเขา แต่ในความที่ดูเหมือนไม่ใส่ใจภรรยา จริง ๆ แล้วเขาแอบเป็นห่วงเธอเสมอ ไม่ว่าจะปฏิเสธเสียงแข็งขนาดไหนว่าจะไม่ทำตามที่เธอขอ ไม่เกิน 5 นาทีถัดมาเขาก็ต้องยอมทำตามที่เธอขอทุกครั้ง ไปจ่ายตลาดด้วยกัน หุงข้าวด้วยเตาถ่าน ทำให้เธอขำและมีรอยยิ้มโดยการเอาใจเธอหลาย ๆ อย่าง เมื่อได้เปิดใจกันมากขึ้น ก็เข้าใจกันมากขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้เป็นจุดสำตัญทีจะทำให้ชีวิตคู่ไปด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่ง ความรู้สึกของคนสองคนต่างหากที่ผูกใจไว้ด้วยกันได้ดีที่สุด ถึงแม้ฮวาโบบิจะไม่สวยมากมายเหมือนสาวคนอื่น ๆ แต่เธอมีความสวยในตัวเธอ มีความน่ารัก ความไร้เดียงสา จนทำให้สามี มองเห็นตัวตนของเธอ และอดไม่ได้ที่จะแอบชอบเธอในเวลาต่อมา
ส่วนฟานี่ ตอนแรก ๆ เขาออกแนวผิดหวังในตัวภรรยาในหลาย ๆ เรื่อง แต่เขาก็ปรับตัว และยอมรับสิ่งที่เป็นของเธอ เห็นเขาเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ดูภายนอกเหมือนจะโรแมนติก อบอุ่น แต่จริง ๆ แล้วเค้ามีความมั่นใจในตัวเองสูง มีภาวะความเป็นผู้นำ ในขณะเดียวกัน ก็มีความโรแมนติกแอบซ่อนอยู่ แอบมองอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ แต่ไม่ค่อยแสดงออกให้เห็น แต่ทุกครั้งเขาก็พึ่งพาได้ ทำได้ทุกอย่างจนภรรยาทึ่ง น่ารักค่ะคู่นี้ เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตแต่งงานจริง ๆ

วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2554

We got married : คู่รักตัวเล็ก โจควอน + กาอิน







ถือว่าเป็นคู่แต่งงานที่อยู่กันยืดที่สุดของรายการ และเป็นคู่ที่หลายคนโหวตให้ว่าน่ารักที่สุดอีกด้วย แม้จะดูเหมือนคู่พี่น้อง เพราะ กาอิน แก่กว่า โจควอน เกือบ ๆ จะสองปี และมีบุคลิกรวมไปถึงลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน แต่ความต่างนั้นกลับเติมเต็มซึ่งกันและกัน โจควอนมีความคิดและพฤติกรรมที่เป็นเด็กสุด ๆ ดูภายนอกจึงเหมือนผู้ชายที่เหยาะแหยะ และดูอ่อนแอ แต่จริง ๆ เขาเป็นผู้ชายที่พึ่งพาได้ แม้จะอ่อนไหว และอ่อนประสบการณ์เรื่องความรักจนทำให้ กาอิน ต้องเป็นฝ่ายรุกก็ตาม แต่ถีงอย่างนั้นเขราก็มีความพยายามในการที่จะทำให้ กาอิน มีความสุข และมองเขาในฐานะผู้ชายบ้าง เขาจึงยอมอ่อนข้อให้ กาอิน ทุกอย่าง และไม่เคยคิดที่จะเอาชนะเธอเลย แถมยังคอยทำเซอร์ไพร์สภรรยาสาวตลอด เช่น การร่วมือกับประธาน ปักจินยอง ร้องเพลงรักพร้อมมอบดอกกุหลาบให้ภรรยาสาวต่อหน้ารผู้คนมากมายที่มาร่วมเป็นสักขีพยานความรักของพวกเขา ในคอนเสิร์ตของท่านประธาน หรือการลงทุนซื้อกระเป๋าแบนด์เนมให้ในวันเกิด กาอินผู้เคยเล่นตัวและไม่ยอมให้โจควอนถูกเนื้อต้องตัวสักเท่าไหร่ จึงเปลี่ยนมาเป็น กาอินคนใหม่ที่ชอบให้โจควอนแสงความรักออกมาตรง ๆ เพราะแพ้ให้กับความรัก ความห่วงใย และความเอาใจใส่ของสามี ที่คิดถึงเธอเป็นคนแรกเสมอ แต่เพราะโจควอน มัวแต่กล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ยอมลงมือสักที เลยกลายเป็น กาอิน ที่ต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเสียเอง ไม่ว่าจะเป็นการกอดหรือจูบ เพราะแอบหงุดหงิดสามี เลยทำเอาคุณสามีเซอร์ไพร์สอยู่บ่อยครั้งเพราะตั้งตัวไม่ทันกับมุกของภรรยา อย่างเช่น การนำอาช็อกโกแลตมาทาที่ริมฝีปากแล้วเดินมาชวนคุณสามีให้มากินชอกโกแลตจากปากของเธอ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องเป็นคนเข้าไปจูบที่แก้มสามีแทน

นอกจากนี้ด้วยความที่กาอินมีนักแต่งเพลงมือดีเจ้าของผลงานเพลง Abracadabra อยู่ในมือ เธอจึงขอร้องให้เขาช่วยแต่งเพลงคู่รักให้ และด้วยความช่วยเหลือของเจอา อีกแรง จึงออกมาเป็นเพลงน่ารัก ๆ อย่าง "We fell in Love" ที่เนื้อหาตรงกับเรื่องราวของพวกเขาสุด ๆ จึงโดนใจผู้ฟังเกาหลีจนขั้นอันดับหนึ่ง ในหลาย ๆ ชาร์ตด้วยกัน ส่งผลให้พวกเขาได้รับเชิญให้ไปร้องเพลงในรายการ Music core แม้เทคแรกจะไม่ผ่านเพราะ โจควอน เกิดร้องเสียงเพี้ยนขึ้นมา แต่เพราะได้กำลังใจจากสาว กาอิน และแฟน ๆ เขาจึงสามารถเอาตัวรอดได้ ในเทคสอง คู่อดัมเลยยิ่งกลายเป็นขวัญใจมหาชน และพยายามเชียร์ให้พวกเขาคบกันจริง ๆ

วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Eden of the east



ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 จรวดมิสไซล์สิบลูกเข้าโจมตีประเทศญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตามการก่อการร้ายเหนือความคาดหมายครั้งนี้ถูกกล่าวถึงในเวลาต่อมาว่า
“Careless Monday” ไม่ปรากฏผู้เสียชีวิต และถูกลืมเลือนไปในเวลาไม่นาน
3 เดือนต่อมานักศึกษาสาวชาวญี่ปุ่น โมริมิ ซากิ ไปเที่ยววอชิงตันDCประเทศอเมริกา
เพื่อฉลองจบการศึกษาให้ตนเองและไปก่อเรื่องเข้าจนได้รับความช่วยเหลือจาก
หนุ่มญี่ปุ่นลึกลับที่บอกว่าตนเองชื่อ ทาคิซาว่า อากิระ เขาอยู่ในสภาพเปลือยทั้งตัว
มือข้างหนึ่งถือปืนและอีกข้างถือโทรศัพท์มือถือ ที่มี Digital Money ใส่อยู่ถึง 8.2 พันล้านเยน!สามารถสั่งการได้ทุกอย่าง แต่เขาความจำเสื่อมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ถูกลบความทรงจำของตนเอง แต่จริง ๆ แล้วเขาคืออาชญากรที่อยู่ระหว่างการหลบหนีอากิระถูก
คัดเลือกให้เป็นเซเลเซาส์หมายเลข 9 ข้อมูลทางโทรศัพท์ที่หลงเหลืออยู่ก่อนที่เขาจะลบความทรงจำทิ้งไป บ่งบอกว่าเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวและเหตุการณ์ “Careless Monday” ในญี่ปุ่น Selecaoเป็นภาษาโปรตุกีสแปลว่า "ผู้ถูกเลือก" ภารกิจก็คือใช้เงิน 1 หมื่นล้านเยนที่ได้มาทั้งหมด ในการพัฒนาประเทศญี่ปุ่นให้ดีกว่าที่เป็นอยู่และเวลาที่จะใช้เงินก็ใช้ผ่านทรศัพท์มือถือ เวลาต้องการสั่งอะไรก็โทรมาJuiz (แปลว่า Judge) สั่งได้เลย ทำได้ทุกอย่างมีคำบอกไว้ว่า 1 ใน 12 คนนั้นจะมีคนนึงที่เป็น supporter คอยดูแลว่า ถ้าทำไม่ได้ตามเป้าหมาย
ของ Mr.Outsiderก็จะถูกกำจัด ช่างเป็นการพบกันที่ แปลกประหลาดจากนั้นก็ หลบหนี มาญี่ปุ่นด้วยกันปัจจุบันอาศัยอยู่กับพี่สาว ที่แต่งงานแล้ว เธอพยายามหางานประจำ หลังจาก เธอพบอากิระทำให้เธอเชื่อว่าเขาคือเจ้าชาย ขี่ม้าขาว เธอเป็นสมาชิกกลุ่ม Eden of the east มีความสามารถ ในการเพิ่มมูลค่า ให้กับสิ่งของหรือขยะที่เก็บ มารีไซเคิล ทำให้ กลุ่มหารายได้
จนเปิดคอมมูนิตี้

Romance Town / Maids



ซีรีย์เรื่อง "Romance Town" หรือ "Maids" จะกล่าวถึงหญิงสาวสวยน่ารัก โนซุนกึม (รับบทโดย ซองยูริ) ที่มีความเชื่อว่า "ฉันนี่แหละเกิดมาเพื่อเป็นเมด" เพราะว่าไม่เพียงแต่ตัวเธอที่รับจ้างเป็นเมดหรือแม่บ้าน แม่และยายของเธอเองก็มีอาชีพเป็นแม่บ้านเช่นกัน ซุนกึมเป็นคนกล้าหาญและไม่เคยเกรงกลัวต่องานหนัก เธอผ่านความยากลำบากและเรื่องโชคร้ายมามากมาย และที่สำคัญตอนนี้เธอต้องช่วยแม่หาเงิน เพราะค่าเทอมที่แม่เก็บไว้ให้เธอก็มีอันต้องออกไปใช้หนี้พนันของพ่อ เนื่องมาจากพ่อของเธอเองติดการพนันอย่างหนัก ในวัยเด็ก เธอมีความฝันว่าเธออาจจะมีชีวิตเหมือนซินเดอเรลล่า และวันหนึ่งก็จะพบกับเจ้าชายขี่ม้าขาว แต่ทว่าความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้เข้าไปทำงานเป็นเมดในบ้านตระกูลเศรษฐีย่านกังนัม และได้พบกับชายหนุ่มผู้แสนจะเย็นชาอย่าง คังกึนอู (รับบทโดย จองคยออุน) เรื่องวุ่นๆ ต่างๆ จึงเกิดขึ้น พร้อมกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เมื่อเธอบังเอิญถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่และสิ่งนั้นเองก็นำมาซึ่งจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ...ติดตามความสนุกชุลมุน แบบน่ารักๆ ได้ใน Romance Town

ซองยูริ รับบท โนซุนกึม(Sung Yu Ri as No Soon Geum) สาวสวยผู้ที่มีความเชื่อว่าเธอเกิดมาเพื่อเป็นเมดหรือก็คือแม่บ้าน เพราะแม่และยายของเธอเองก็เป็นเมดเช่นกัน ชุนกึมเป็นคนที่มีจิตในเข้มแข็งอดทน ใจกว้าง ไม่ว่างานที่ทำจะหนักหนาหรือลำบากมากแค่ไหน เธอก็ไม่เคยเกี่ยง เพราะเธอต้องการช่วยแม่หาเงิน เพื่อเอาไปใช้หนี้พนันให้พ่อ แต่ทว่าวันหนึ่งเมื่อเธอได้เข้าไปทำหน้าที่เมดให้บ้านเศรษฐี บางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้น สิ่งนั้นได้เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเธอ หรือนี่จะเป็นพรหมลิขิตกันนะ...

จองคยออุน รับบท คังกึนอู(Jung Gyu Woon as Kang Gun Woo) หนุ่มไฮโซ ลูกชายมหาเศรษฐีที่เพิ่งจะเดินทางกลับจากนิวยอร์ค เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังแรกบนถนนสายหลักย่านกังนัม ชายหนุ่มผู้แสนจะเย็นชา เก็บตัว จู้จี้จุกจิก โกรธง่าย และมักจะทำตัวหยาบคายกับผู้หญิงเสมอ ครั้งแรกเขาพบกับซุนกึมโดยบังเอิญ ขณะที่เขากำลังดื่มเบียร์อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ...

คิมมินจุน รับบท คิมยองฮี(Kim Min Joon as Kim Young Hee)หนุ่มแบดบอย ดูลึกลับ เพื่อนสนิทของคังกึนอู มิตรภาพระหว่างพวกเขา
ยาวนานกว่าสิบปี ยองฮีไม่ได้เกิดมาบนความร่ำรวยของตน แต่ทว่าเขาได้
รับสืบทอดมรดกมากมายขากคุณปู่ที่เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง ดังนั้นเขาจึงมี
เงินจำนวนมหาศาล แต่นั่นกลับตรงกันข้ามกับชื่อเสียงในด้านลบของตน
เอง รวมไปถึงความโลภและความอิษฉาริษยาด้วย...

มินฮโยริน รับบท จองดากยอม(Min Hyo Rin as Jung Da Kyum)เมดสาวประจำตัวคิมมินจุน เมดน้องเล็กที่มีใบหน้าสวยและรูปร่างดี ถึงแม้เธอจะยังอายุน้อย แต่ประสบการณ์ด้านการดูแลจัดการงานในบ้านไม่เป็นรองใคร เพราะเธอเริ่มงานเมดมาตั้งแต่จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม ถ้าพูดถึงเรื่องอารมณ์และนิสัยแล้ว หากไปสะกิดหรือทำให้เธอโกรธแม้แต่นิดเดียวล่ะก็ เธอจะไม่ปล่อยให้ผ่านไปเฉยๆ เป็นอันขาด...

We got married : คู่รักมันหวาน: ยงฮวา+ซอฮยอน





download File rar : Cover and Lable
http://depositfiles.com/files/fvxj9q2c7

download File JPG
http://www.ziddu.com/download/14826663/WGMYongwhaseohyun2.jpg.html
http://www.ziddu.com/download/14826664/WGMYongwhaseohyun5.jpg.html
http://www.ziddu.com/download/14826665/WGMYongwhaseohyun3.jpg.html
http://www.ziddu.com/download/14826666/WGMYongwhaseohyun6.jpg.html
http://www.ziddu.com/download/14826667/WGMYongwhaseohyun1.jpg.html
http://www.ziddu.com/download/14826668/WGMYongwhaseohyun4.jpg.html
http://www.ziddu.com/download/14826731/WGMYongwhaseohyun9.jpg.html
http://www.ziddu.com/download/14826732/WGMYongwhaseohyun7.jpg.html
http://www.ziddu.com/download/14826733/WGMYongwhaseohyun8.jpg.html
http://www.ziddu.com/download/14826730/WGMYongwhaseohyun202.jpg.html


คู่นี้เริ่มต้นด้วยความอึดอัด เพราะความเป็นนักร้องดังทั้งคู่ จึงกลัวว่าอาจจะมีปัญหากับแฟนคลับของแต่ละฝ่ายได้ เลยทำให้พวกเขาวางตัวกันลำบาก อีกทั้งพี่ ย้ง ก็เป็นผู้ชายที่เคยผ่านประสบการณ์เรื่องความรักมาก่อน เมือต้องมาเจอกับ ซอฮยอน สาวคงแก่เรยนที่ไม่สามารถแยกแยะได้กระทั่งความรักหรือความชอบ ก็ทำให้พี่ย้งคิดหนัก เพราะมไร้จะรับมือยังไงดี ในเมื่อไลฟ์สไตล์ของทั้งคู่เรียกได้ว่าต่างกันอย่างสิ้นเชิง ความเงียบเลยมาเยือนคู่นี้อยู่บ่อยครั้ง ซอฮยอน เองก็รู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน เธอจึงไม่ยอมพูดคุยแบบเป็นกันเองกับพี่ย้งสักที ทำให้หลายคนต้องคอยลุ้นว่า เมื่อไหร่พวกเขาจะสกินชิพกันสักที่ แต่โชคดีที่ทั้งคู่ทำงานอยู่ในวงการเพลงเหมือนกัน ดนตรีจึงช่วยสานความสัมพันธ์ให้ทั้งคู่บ่อย ๆ ขยับเข้าหากันทีละก้าวแบบค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความช่วยเหลือจากน้อง ๆ วง CNBLUE ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับ ซอฮยอน และเพื่อให้ภรรยามือใหม่เข้าใจคุณสามีนักดนตรีมากขึ้น พี่ย้ง เลยซื้อกีตาร์ให้ ซอฮยอน พร้อมกับสอนวิธีเล่นขั้นพื้นฐานให้ พร้อมกับมอบการบ้านให้ภรรยาไปฝึกซ้อม ในขณะเดียวกับ ซอฮยอน ก็ให้การบ้านพี่ย้ง ด้วยการซื้อหนังสือเล่มโปรดให้สามีขี้เล่นของเธอเอากลับไปอ่านแล้วมาสรุปให้เธอฟังเช่นกัน

ทว่าทั้งคู่เริ่มมีตารางงานที่เริ่มจะแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ก็ทำให้พวกเขาไม่ค่อยมีเวลามาเจอกันสักเท่าไหร่ พอมีโอกาสได้กลับมาอยู่ด้วยกันก็เลยเก้ ๆ กัง ๆ เหมือนเดิม แถมพี่ย้ง ก็เริ่มจะตีตัวออกห่างและใช่กลยุทธ์ลองใจกับ ซอฮยอน ก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แย่ลงไปอีก จนกระทั่งพวกเขาได้ใช่เวลาอยู่ด้วยกั้นที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งคู่จึงค่อย ๆ เปิดใจให้แก่กัน ซอฮยอน เลยมีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับพี่ย้ง มากขึ้นถึงขั้นควงแขนแม้สามีจะตกใจเล็กน้อย จนเขนเกร็งไปหมด แต่หลายคนก็พอมองออกว่า ลึก ๆ เขาก็แอบดีใจนิด ๆ เหมือนกน ทว่าพฤติกรรมของพี่ย้ง ที่ยังไม่ค่อยใส่ใจภรรยาเท่าที่ควร ก็ทำให้เขาถูกลายคนต่อว่าอยู่บ่อย ๆ ว่าควรจะดูแลภรรยาให้ดีกว่านี้ พี่ย้งเลยลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวอง และพยายามทำตัวเป็นสามีที่ดี ปรับตัวเข้าหาภรรยามากขึ้น ซอฮยอน จึงรู้สึกกับสามีคนนี้มากขึ้น แต่กว่าที่แจบแรกของพวกเขาจะมาถึงก็ต้องเดือดร้อนเพื่อน ๆ ต้องมาช่วยกันเชียร์ในวันถ่ายภาพแต่งงานด้วยกัน แม้จะเป็นการจอบที่เกิดขึ้นเพราะแรงกดดัน แต่ก็เป็นจูบแห่งความทรงจำของพวกเขา

ในขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อพี่ย้ง สารภาพเรื่องสุดช๊อกว่า เขาทำผ้าพันคอที่ ซอฮยอน ให้หายไปซะงั้น สร้างความหงุดหงิดใจให้ภรรยาสาวจนคะแนนที่เขาทำมาทั้งหมด ถูกลบทิ้ง พี่ย้ง เบยแสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมควักกระเป๋าพา ซอฮยอน ไปชอบปิ้งและเลี้ยงข้าว แต่ก็ไม่ข่วยอะไรให้ดีขึ้น ในที่สุดพี่ย้งก็ทนเห็นภรรยาที่ได้แต่ทำหน้าเศร้าไม่ไหว เขาจึงทำเซอร์ไพร์ส์ด้วยการถักผ้าพันคอคู่รักมอบให้ ซอฮยอน เพื่อชดเชยที่เขาทำผิดไป และนี่เองที่ทำให้พี่ย้ง เข้าใจความรู้สึกของ ซอฮยอน ที่ทุ่มเทถักผ้าพันคอให้เขาเพราะเขาต้องอดตาหลับขับตานอนตลอดเวลา เดินทางไปโชว์ตั้วที่ต่างประเทศ ซึ่งก็รวบถึงในบ้านเราด้วย ก็มานั่งทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ให้กับ ซอฮยอน พร้อมกับใหน้อง ๆ ในวงช่วยถายภาพให้ จากนั้นก็เขียนเป็ฯไดอารี่มอบใหภรรยา เห็นว่าเขาทุ่มเทกับมันมากแค่ไหน สร้างความซาบซึ้งใจให้กับ ซอฮยอน อย่างมาก ซึ่งจุดนี้ไม่ใข่แค่เพียง ซอฮยอนเท่านี้ที่คาดไม่ถึง แม้แต่น้อง ๆ ในวงกับผู้ชมเองก็ยังทึ่งกับความพยายามอันเหลือเชื่อของเราเช่นก้น แถมในตอนสุดท้ายเขายังมีเซอร์ไพรส์ทำเอา ซอฮยอน ถึงกับน้ำตาซึมอีกด้วย ทว่าจะเป็นอะไรนั้นอย่ากให้ลองหามาดูค่ะ เฉลยหมดไม่ได้ เดี๋ยวไม่ติดตาม แต่ที่แน่ ๆ ต้องหันกลับมามองหนุ่มคนนี้ใหม่ และพาลทำให้เราคิดได้ว่ บางที การมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแบบนี้ก็น่าจะดีเหมือนกัน เพราะมันอาจจะเปลี่ยนคน ๆ หนึ่งกลายเป็นผู้ใหญ่ขึ้นก็เป็นได้


วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

We got married : คู่รักหวานแหวว : แอนดี้+โซลบิ















ตำแหน่งนี้ไม่มีคู่ไหนเหมาะสมเท่ากับคู่ของแอนดี้-โชลบิ อีกแล้วเพราะฝ่ายหญิงประกาศตัวอย่างโจ่งแจ้งว่า เป็นแฟนคลับตัวยงของหนุ่มแอนดี้มาตั้งแต่ต้น เธอจึงออกอาการตื่นเด้นดีใจแบบสุด ๆ ที่จะได้ใช้ชีวิตคู่กับนักร้องหนุ่มคนโปรด งานนี้โซลบิเลยจัดหนัก ไม่มัวมาเสียเวลาเขิบอาย เพราะเธอถือคติว่า ด้านได้อายอด ดังนั้น อะไรที่อยากให้แอนดี้โอป้าทำ เธอก็จะขอร้องแกมบังคับให้เขาช่วยทำให้หน่อย ไม่ว่าจะเป็นสวมชุดกระต่ายน้อยน่ารัก โยกย้ายส่วยสะโพกเต้นท่าหัวใจในเพลง Love Song หรือแม้กระทั่งจูบนักครั้งไม่ถ้วน!! แถมยังแอบตีก้นสามีคนนี้อยู่เนือง ๆ ทำเอาหนุ่มแอนดี้สะดุ้งโหยงทุกครั้งไป แต่แทนที่จะโกรธเขากลับเลือกทื่จะยอมอ่อนข้อให้ พร้อมกับรอยยิ้มให้ภรรยาสาวจอมเอาแต่ใจคนนี้เสมอ แถมยังคอยเซอร์ไพร์สภรรยาสาวเป็นประจำ แต่ที่ทำเอาโซลบิประท้บใจสุด ๆ ก็คือ แอนดี้โอป้า ลงทุนควักกระเป๋าของตัวเอง ซื้อแหวนทองคำขาวพร้อมดอกไม้ช่อโตมอบให้อีกด้วย คู่นี้ไม่ค่อยมีเรื่องให้เคืองหรือผิดใจกัน เพราะผลัดกันให้และรับ ซ้ำยังคอยเติมความหวานด้วยการสกินชีพให้เห็นตลอด ไม่ว่าจะเป็นกอดจากทางด้านหลัง นอนตัก หอมแก้ม จูบ หลายคนรคงอดอิจฉาไม่ได้ แม้แต่เจ้าตัวยังอินซะจนถึงกับเอ่ยปากทั้งน้ำตาว่า รายการนี้น่ากลัวจริง ๆ เพราะต้องเล่นกับความรู้สึกของตัวเอง ทำให้ตอนสุดท้ายพวกเขาต้องออกจากรายการถึงกับน้ำตาท่วมจอกันเลยทีเดียว