วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

สะพานแห่งการเปลี่ยนแปลง

ปีใหม่ที่ผ่านมาได้กลับไปทำบุญ ที่บ้านโคราช
รู้สึกอิ่มใจที่ได้ทำ รู้สึกดี เพราะตั้งใจว่า ถ้าหายเดินได้ นั่งได้ มีต้งค์สักนิด จะนัดกับน้อง ๆ พ่อกับแม่ ว่า เราจะกลับไปทำบุญกัน
แล้วความปรารถนานั้นก็เป็นผล ปีนี้ได้โบนัสกันพอสมควร มีตังค์ทำบุญแล้ว เราก็หายเดินได้ กินได้ เป็นบุญแท้ ๆ
ถึงแม้คุณหมอจะไม่เคยบอกว่าเราจะหายเป็นปกติ ถึงแม้เราจะยังหอบลำไส้ไปไหนมาไหน ไม่เหมือนคนปกติทั่วไป
แต่เท่าที่เป็นทุกวันนี้ เราถือว่า เรามีบุญมากแล้ว ที่ได้กลับมาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ อย่างมีสติ
ทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้พ่อกับแม่มีความสุข เท่าที่จะทำได้
ทำงานให้เหมาะสมที่สุดกับนายจ้างที่ดีกับเราเหลือเกิน ให้โอกาส และรอเราจากคนเป็นมะเร็งระยะ 4
ให้กลับมาทำงานเหมือนเดิม ยังเหลือเก้าอี้ไว้ให้ ขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ



เย็นวันที่ 29 แม่ไปนอนด้วยที่บ้าน แม่คิดว่าเราคงจะเหงา ที่อยู่คนเดียว ที่บ้านหลั้งไม่เล็กไม่ใหญ่
เลยไปนอนเป็นเพื่อน เราได้นอนคุยกัน อากาศเย็นมาก ต้องนอนคุมโปง ผ้าห่าผืนหนา ๆ
หลังจากนวดขาให้แม่แล้ว เราก็ปรึกษาเรื่องเมนูที่จะทำเลี้ยงพระ เลี้ยงแขกในวันที่ 31
แล้วก็วกกลับมาคุยเรื่องน้องสาวคนกลาง ที่เค้าพูดว่าจะแต่งงาน เราก็ไม่ได้ว่าอะไร เห็นดีด้วย น้องสาวจะออกเรือนแล้ว
แล้วอยู่ ๆ แม่ก็พูดว่า “มนต์ไม่ต้องเสียใจนะลูก มนต์ลูกแม่เป็นคนดี ไม่เคยทำให้พ่อกับแม่เสียใจ ทำดีมาตลอด
ถึงไม่ได้แต่งงานก็ไม่เป็นไร น้อง ๆ ทุกคนแม่สั่งไว้แล้ว ไม่ให้ใครทิ้งพี่ มนต์เป็นคนดีของพ่อกับแม่และครอบครัว ใครมันตาบอดไม่เห็น
ก็ปล่อยมันไป เค้าไม่ใช่ไม่มีเงิน เงินก็มีเก็บ ทองที่ใส่มาทั้งสร้อย แหวน กำไลมือ เส้นใหญ่เบ้อเล่อ ถ้าจะแต่งทำไมจะทำไม่ได้”
เราได้ฟังน้ำตาไหลพราก ..ออกมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เรารู้ตัวดี แต่เราไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นราวสักที กลั้นเสียงไว้ กลัวแม่จะได้ยินว่าเราร้องให้ แม่มองไม่เห็น เพราะเราปิดไฟนอนกันแล้ว สักพักเราบังคับตัวเองได้แล้ว จึงบอกแม่ไปว่า
“มันอยู่ที่ใจของเขา ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง ถ้าเค้ารักลูกสาวแม่สักนิด ถึงจะมีมากไม่มาก ถ้าจะมาสู่ขอกันจริง ๆ
ก็มาได้ตั้งนานแล้ว แต่เขาพลัดวันประกันพรุ่งมาตั้งหลายปี เพราะเขาไม่ได้รักเรา มนต์เข้าใจดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก
เราบังคับใครมารักเราไม่ได้ ดีให้ตายแค่ไหน ถ้าเขาไม่ได้รัก มันก็คือไม่รัก แม่อย่าไปเคืองเขาเลย”
ระหว่างที่บอกแม่ไป น้ำตายังไหล บอกแม่ไปว่าไม่เสียใจ ทำใจได้แล้ว ยอมรับได้แล้ว แต่มันยังร้องให้ออกมาตลอด



เขาก็ยังไปมาหาสู่เหมือนเดิม ยังโทรหาทุก ๆ 2 วัน ยังมาหาอาทิตย์ละวัน ยังเจอหน้ากันทุกวันที่ทำงาน ยังพูดคุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกเราไม่เหมือนเดิม เราพยายามตัดเขาออกไป พยายามไม่คิดถึง พยายามอยู่คนเดียว ไม่มีน้อง ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีเขาเราจะพยายามอยู่ให้ได้ วันเดินทางกลับบ้านปีใหม่ คุณก็แวะไปหาที่บ้าน เอาของขวัญไปหวัดดีพ่อกับแม่ เหมือนเดิม เราก็มีของฝากไปให้พ่อกับแม่คุณเหมือนเดิมวันกลับมาทำงาน คุณก็แวะมารับที่บ้าน มาพร้อมกัน เล่าเรื่องราว ทางบ้านคุณให้ฟัง เรื่องมรดกคุณ เรื่องปัญหาของคุณ บางครั้งคุณก็ยังดูเป็นห่วง รถเบรคแรง เราหลับตาอยู่ คุณก็เอามือกันไว้ ไม่ให้หัวไปโดนด้านหน้า แต่พอกลับมาทำหน้าที่ของแต่ละคน คนก็ยังเฉยชา เหมือนเดิม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น